นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้พิจารณาเรื่องปัญหาค่าเงินบาท โดยมีมาตรการหลักๆ เพื่อจำกัดการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศและอำนวยความสะดวกให้เงินทุนไหลออก รวมถึงมาตรการช่วยเหลือเรื่องสภาพคล่องและประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับธุรกิจส่งออกขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)
"ถือเป็นแนวทางของรัฐบาลที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบความเดือดร้อนของผู้ประกอบการจากการที่ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้น และเป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่ารัฐบาลไม่มีแนวคิดเรื่องการใช้ระบบการกำหนดเป้าอัตราแลกเปลี่ยน แต่จะพิจารณาเพื่อป้องกันหรือบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจจริง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายขนาดกลางและขนาดย่อมที่เป็นผู้ส่งออก" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการที่ออกมาไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาเรื่องเงินบาทแข็งค่า แต่เป็นการแก้ปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้น และจากแนวโน้มทางเศรษฐกิจในขณะนี้เชื่อว่าเงินบาทคงยังไม่อ่อนค่าในระยะเวลาสั้น
ดังนั้น ต้องส่งสัญญาณให้ผู้เกี่ยวข้องเล็งเห็นว่าเมื่อเงินบาทแข็งค่าแล้วจะต้องมีการปรับแนวทางการบริหารงานของตัวเองอย่างไร ซึ่งในส่วนของภาครัฐได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว เช่น การบริหารหนี้ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังต้องเร่งส่งเสริมการนำเข้าเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีใหม่เพื่อปรับปรุงกิจการของตัวเอง
"มาตรการที่ออกไปมุ่งบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรายย่อย และอาจมีผลให้เงินซึ่งไหลเข้าในปริมาณที่มากมีการชะลอตัวลงบ้าง"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนมาตรการจูงใจให้มีการนำเข้าเทคโนโลยีใหม่และเครื่องจักรนั้นทาง รมว.คลัง กำลังพิจารณาในรายละเอียด คาดว่าจะนำเสนอกลับมาให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาอีกครั้งใน 2 สัปดาห์