นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะเติบโตได้ในระดับ 8% ส่วนการท่องเที่ยวคาดว่าจะฟื้นตัวได้ในปลายปีนี้ โดยจะมียอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยประมาณ 15 ล้านคน
ทั้งนี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าสามารถตอบรับกับความแปรปรวนทางเศรษฐกิจโลกได้ดี และจากที่ประเทศไทยอยู่ในช่วงการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะต้องทบทวนบทเรียนทางด้านเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศในระยะต่อไป
นายกรัฐมนตรี มองว่า การพัฒนาเศรษฐกิจไทยจะต้องมองประกอบกันไปใน 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.การพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้นั้น ประเทศไทยต้องไม่ปิดตัวเอง 2.ส่วนภาคการส่งออก ไทยต้องพยายามเปิดตัวทั้งข้อตกลงการเปิดเสรีทางการค้า(FTA) หรือนโยบายการค้าอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลจะไม่ใช้นโยบายกีดกันทางการค้า และจะให้ความมั่นใจในการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรได้อย่างมีคุณภาพ
3.การพัฒนาศักยภาพ ที่จะต้องมีความหลากหลายทางเศรษฐกิจในประเทศ เน้นการพัฒนาการบริการ หรือการเกษตรที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของไทย และ 4.ความโปร่งใสของรัฐบาล โดยหัวใจสำคัญคือธรรมาภิบาล ซึ่งทั้ง 4 ข้อนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าจะสามารถนำพาประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจที่ดีขึ้นได้
"การสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งนั้น รัฐบาลจะพยายามเสริมสร้างการเพิ่มรายได้ให้แก่ประชากรผ่านโครงการต่างๆ แต่จะคำนึงถึงประชากรที่อยู่นอกระบบด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมั่นใจว่าจากเป้าหมายการทำงานของรัฐบาลผ่านโครงการต่างๆ นั้น จะบรรลุได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้อย่างแน่นอน" นายกฯ กล่าว ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "สหราชอาณาจักรไทย และเส้นทางการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย"