สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าของ 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร หรือกลุ่มยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 4.3 พันล้านยูโร (6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนส.ค.
ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของกลุ่มยูโรโซนเพิ่มขึ้น 1% ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 1.8% ซึ่งส่งผลให้ยูโรโซนมียอดขาดุลการค้าในเดือนส.ค. หลังจากที่มียอดเกินดุลการค้าสูงถึง 6.2 พันล้านยูโร (8.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนก.ค.
ส่วนยอดขาดดุลการค้าของ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) อยู่ที่ระดับ 1.73 หมื่นล้านยูโร (2.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนส.ค. มากกว่าเดือนก.ค.ที่ขาดดุลการค้าเพียง 6.2 พันล้านยูโร (8.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยยอดการส่งออกเดือนส.ค.ของอียูลดลง 0.1% ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.3%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ค.ปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างอียูและประเทศคุ่ค้าหลักๆขยายตัวขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปี โดยอียูส่งออกสินค้าไปยังบราซิล จีน และตุรกี มากที่สุดเป็นประวัติการณ์