ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) เนื่องจากดอลลาร์ยังคงถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมต้นเดือนหน้า อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐไม่มีความคิดที่จะประกาศลดค่าเงินดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.28% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3937 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ (15 ต.ค.) ที่ 1.3976 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดิ่งลง 0.66% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5884 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5990 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 0.21% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.260 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 81.430 เยน และขยับขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9589 ฟรังค์ จากระดับ 0.9586 ฟรังค์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9890 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.9905 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7560 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7552 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดยืนยันในที่ประชุมเฟดสาขาบอสตันว่า อัตราว่างงานที่เคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน และตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ อาจทำให้เฟดจำเป็นต้องใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะยิ่งทำให้สกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าอ่อนลงไปอีก
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงมากขึ้นเมื่อเฟดรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ของสหรัฐ หดตัวลง 0.2% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวขึ้น 0.2% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ย.ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 74.7% ซึ่งผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอยิ่งสนับสนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะใช้มาตรการ QE เร็วๆนี้
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากไกธ์เนอร์ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐไม่มีความคิดที่จะประกาศลดค่าเงินดอลลาร์
"จำเป็นอย่างยิ่งที่ชาวอเมริกันจะต้องทำความเข้าใจว่า รัฐบาลสหรัฐ หรือแม้แต่รัฐบาลในประเทศอื่นๆทั่วโลก ไม่ต้องการที่จะลดค่าเงินในประเทศตนเองเพื่อมุ่งหวังจะได้ประโยชน์จากการแข่งขันทางการค้าในตลาดโลก โดยเฉพาะรัฐบาลสหรัฐที่ไม่เคยมีแนวความคิดแบบนี้" ไกธ์เนอร์กล่าวในที่ประชุมผู้นำธุรกิจในเมืองซิลิคอน เวลลีย์
นายฌอง-คล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ปฏิเสธความเห็นของนายแอกเซล เวเบอร์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) ที่เรียกร้องให้ยุติมาตรการซื้อพันธบัตร แม้มาตรการดังกล่าวช่วยให้รัฐบาลและธนาคารพาณิชย์ในยุโรปสามารถระดมทุนเงินทุนได้มากขึ้นก็ตาม
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจของอังกฤษ (CEBR) คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะขยายโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 1 แสนล้านปอนด์ (1.60 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ และคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ไปจนถึงช่วงปลายปี 2555 เป็นอย่างน้อย
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ของเฟด จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ย.