นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่ทั้ง 14 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้ทางกรมชลประทานจัดส่งเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งการระบายน้ำในลำน้ำบริบรูณ์ และลำตะคองให้เร็วขึ้น เนื่องจากลำน้ำทั้ง 2 สายนี้มีปัญหาการตื้นเขินทำให้การไหลและการระบายน้ำทำได้ไม่ดีนัก และให้เตรียมเครื่องสูบน้ำ ซึ่งหากน้ำลดจะดำเนินการเร่งสูบน้ำจากพื้นที่ลุ่มออกไปเพื่อบรรเทาภาวะน้ำท่วมขัง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นห่วงในขณะนี้คือพื้นที่ในจังหวัดลพบุรี ซึ่งกรมชลประทานได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งระดับน้ำในคลองชัยนาทและป่าสัก แต่ขณะนี้นับว่าสถานการณ์ยังดีที่ในช่วงนี้จนถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2553 ยังไม่เกิดภาวะน้ำทะเลหนุน น้ำยังสามารถไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ดี ซึ่งกรมชลประทานได้พยายามบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำน่าน แม่น้ำมูล เพื่อระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาต่อไป ทั้งนี้หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าระดับน้ำ จะเริ่มลดลงและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเร่งเข้าไปสำรวจความเสียหายในภาคการเกษตร เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบต่อไป
รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สำหรับผลกระทบจากพายุใต้ฝุ่นเมกิคาดว่าจะส่งผลกระทบบ้างในภาคตะวันออกและภาคกลางในแถบจังหวัดที่อยู่ร่องความกดอากาศ จึงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ปัจจุบันมีภาวะน้ำท่วมรวม 16 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ลพบุรี สระบุรี เพชรบูรณ์ นครนายก สระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง นครราชสีมา และศรีษะเกษ โดยในช่วงฤดูฝนนี้ กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ จำนวน 1200 เครื่อง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามจังหวัดต่างๆ โดยปัจจุบันได้มีการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ รวมทั้งหมด 924 เครื่อง ในพื้นที่ 58 จังหวัด