ธนาคารโลกแนะจีนปรับสมดุลเศรษฐกิจมากขึ้น เพื่อการขยายตัวอย่างยั่งยืน

ธนาคารโลกแนะจีนเดินหน้าปรับสมดุลเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่จีนกำลังอยู่ในระหว่างเตรียมความพร้อมสำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า

รายงานความคืบหน้าทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกฉบับล่าสุดของธนาคารโลกระบุว่า จีนควรดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่เข้มงวดกว่าเมื่อปี 2552 เพื่อควบคุมกระแสคาดการณ์ด้านเงินเฟ้อและเพื่อสกัดกั้นความเสี่ยงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงความเสี่ยงด้านการคลังของรัฐบาลท้องถิ่น

"แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนช่วง 10 ปีข้างหน้ายังคงสดใส แต่การปรับสมดุลทางเศรษฐกิจด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวและการลงทุนจะมีความสำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในเชิงโครงสร้าง สังคม และในระดับโลก"

นอกจากนี้ จีนต้องเร่งลดปัญหาความไม่เสมอภาคกันระหว่างสังคมชนบทและสังคมเมือง รวมถึงลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อควบคู่กับปรับเปลี่ยนบทบาทของรัฐบาลเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รายงานระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจีนยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่าการขยายตัวในตลาดส่งออกหลักๆ ของจีนจะเริ่มอ่อนแรงลง โดยธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้ที่ระดับ 9.5% ในปีนี้ และ 8.5% ในปีหน้า และจีนจะยังเป็นแกนนำการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกต่อไป

นอกจากนี้ รายงานของธนาคารโลกคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของจีนจะเคลื่อนไหวในอัตราเฉลี่ยที่ 3.5 - 4% ในปีนี้ และเตือนว่า แม้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะแข็งแกร่ง แต่กระแสเงินทุนไหลเข้าจำนวนมหาศาลจะสร้างปัญหาต่อการกำหนดนโยบายใหม่

ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแลด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศของจีนเตือนว่า จีนอาจเผชิญแรงกดดันจากกระแสเงินทุนระยะสั้น พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้รัฐบาลจีนเพิ่มมาตรการสกัดกั้นเม็ดเงินเก็งกำไรที่ไหลเข้าประเทศจีนมากขึ้น

รายงานของธนาคารโลกคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะอยู่ที่ 8.9% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 7.3% ในปี 2552 และสอดคล้องกับอัตราการขยายตัวเฉลี่ยในปี 2543 - 2551 สำนักข่าวซินหัวรายงาน