นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาจัดตั้งสภาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(Thailand SMEs Business Council) หรือ SMEs Council โดยจะให้เป็นหน่วยงานที่ทำงานคล้ายกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แต่จะดูแลเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็ก ซึ่งจะเป็นช่องทางในการประสานนโยบายและการดำเนินงานระหว่างรัฐบาลกับผู้ประกอบการ SMEs ได้อย่างจริงจังมากขึ้น
โดยก่อนหน้านี้ได้เคยนำโครงการ SMEs Council ไว้ในแผนของอาเซียนในการประชุมระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการส่งออกเป็นผู้ศึกษารายละเอียดและประสานงานกับภาคเอกชน เพื่อให้เกิดโครงการนี้อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ด้านการส่งออกจากกระทบของปัญหาเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะเตรียมหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อขอเพิ่มวงเงินกู้ Clean Loan ระยะสั้น 3 เดือนจากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกินรายละ 3 แสนบาท ขยายเป็น 5 แสนบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ เนื่องจากวงเงินเดิมอาจจะไม่เพียงพอกับกับการแก้ปัญหาของผู้ประกอบการได้
ทั้งนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้มากยิ่งขึ้น เพราะถือเป็นระบบธุรกิจที่มีสัดส่วนสูงที่สุดในปัจจุบัน โดยขณะนี้มีธุรกิจขนาดเล็กมากถึง 99.6% หรือราว 2,815,000 ราย ขณะที่ธุรกิจขนาดกลางมีเพียง 0.4% หรือราว 12,000 รายเท่านั้น
ด้านนายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) หรือ SMEs Bank กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบว่ามีผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของ ธพว.ได้รับความเดือดร้อนไม่มากนัก จึงเตรียมการช่วยเหลือไว้แล้ว แต่หากปัญหายืดเยื้อก็จะมีมาตรการช่วยเหลือต่อไป
วันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน 2010 หรือ (BIG+BIH 2010) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-24 ต.นี้ ถือเป็นการประกาศศักยภาพการเป็นศูนย์กลางการค้าและดีไซน์แห่งอาเซียนของไทย
โดยกระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกสินค้าของใช้และของขวัญในบ้านในปีนี้ จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,736 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาสามารถส่งออกไปแล้วกว่า 1,168 ล้านดอลลาร์