นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า การหารือกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือแสตนดาร์ดแอนด์พัว (S&P) วันนี้ สศค.ได้นำเสนอภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ โดยเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจทุกด้านดีขึ้น ทั้งการบริโภค การลงทุนในประเทศ และการส่งออกที่ล่าสุด เดือน ก.ย. ยังขยายตัวได้ถึง 27% และได้ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ในอัตรา 7.5%
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในระยะปานกลาง 10 ปี คาดว่า ไทยจะขยายตัวได้ในอัตรา 4.5% เป็นการเติบโตตามศักยภาพของไทย
อย่างไรก็ตาม S&P ให้ความสนใจเกี่ยวกับตัวเลขการจ้างงานของไทย ที่ไม่ลดลง แม้จะได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งได้มีการชี้แจงว่า ที่ผ่านมาไทยประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานอยู่แล้ว ทำให้ตัวเลขการจ้างงานไม่ได้ลดลงจากปัญหาวิกฤติยุโรป
"S&P แปลกใจมากที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเร็ว หลังจากช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมามีปัญหาการเมืองในประเทศ ประกอบกับปัญหาวิกฤติยุโรป ซึ่งถือว่าไทยได้รับผลกระทบน้อย...เรายังมั่นใจในเศรษฐกิจไทย ซึ่งเราพยายามชี้แจงเกี่ยวกับเสถียรภาพในประเทศ" นายพิสิทธิ์ กล่าว
นายพิสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สถาบันจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์อินเวสเตอร์เซอร์วิส ได้เข้ามาเก็บข้อมูลเศรษฐกิจไทย ซึ่งช่วงนั้นปัญหาการเมืองในประเทศเพิ่งสงบ ซึ่งสศค.ได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในอัตรา 5.5% แต่หลังจากนั้นที่เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นทุกด้าน จึงได้มีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจใหม่
อย่างไรก็ตาม หลังการเข้าเก็บข้อมูลประจำปีของ S&P ในวันนี้ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 1-2 เดือน ที่จะมีการออกรายงานประจำ ซึ่งปัจจุบัน S&P ให้เครดิตไทยอยู่ที่ BBB+ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะมีการปรับขึ้นเครดิตให้ไทยหรือไม่ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อไทยได้