นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐระบุสกุลเงินสำคัญๆของโลกยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่เหมาะสม ยืนยันสหรัฐไม่จำเป็นต้องลดค่าเงินดอลลาร์ลง ขณะเดียวกันได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ กำหนดมาตรฐานด้านนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน
หนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานอ้างคำกล่าวของนายรมว.คลังสหรัฐที่ย้ำว่า สหรัฐไม่มีนโยบายปรับลดค่าเงินดอลลาร์เพิ่มเติมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ที่ซื้อขายกันในตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว หลังจากมีรายงานดังกล่าวออกมา โดย ณ เวลา 10:38 น. เงินดอลลาร์ไต่ระดับขึ้นแตะที่ 81.61 เยน จากระดับ 81.09 เยนที่ตลาดนิวยอร์กวานนี้ และพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.3941 ต่อยูโร จากระดับ 1.3964 ต่อยูโร ส่วนเงินเยนเทรดที่ระดับ 113.35 ต่อยูโร จากระดับ 113.23 ต่อยูโร
ก่อนหน้านี้ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงนับตั้งแต่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา
ไกธ์เนอร์ กล่าวด้วยว่า จะใช้เวทีการประชุมรมว.คลัง G-20 ที่เกาหลีใต้วันที่ 22-23 ต.ค. เพื่อหารือเรื่องแนวทางและนโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อที่นานาประเทศจะได้เดินหน้าในการกำหนดหลักการด้านนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน
ทั้งนี้ รมว.คลังสหรัฐได้ระบุหมวดหมู่สกุลเงินทั่วโลกออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มประเทศที่มีสกุลเงินอ่อนค่าเกินความเป็นจริง เช่นประเทศจีน กลุ่มที่สองคือกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศที่ยืดหยุ่น ขณะที่กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มประเทศเจ้าของสกุลเงินสำคัญ ซึ่งขณะนี้เคลื่อนไหวในระดับที่เหมาะสม ดังนั้น สหรัฐ จึงไม่จำเป็นต้องลดค่าเงินดอลลาร์ให้ต่ำลงอีก จากปกติที่อ่อนค่าลงอยู่แล้วเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินเยน