นายสุรพงษ์ ไพสิษฐ์พัฒนพงษ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ระบุว่า จากปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศนั้น ยอมรับว่าหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ภายใน 2 เดือนนับจากนี้ยอดขายรถจักรยานยนต์และรถกระบะขนาด 1 ตัน จะมียอดขายลดลง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลที่ชัดเจนได้ เพราะต้องรอดูจากยอดขายในเดือนต.ค.นี้ก่อน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะไม่กระทบเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1.56 ล้านคัน เพราะจากการคาดการณ์ยอดคำสั่งซื้อช่วง 3 เดือนนับจากนี้ไปยังคงมีการสั่งซื้อล่วงหน้าประมาณ 400,000 คัน
"เชื่อว่ามีโอกาสที่ยอดผลิตรถยนต์ปีนี้จะทำลายสถิติการผลิตรถยนต์ของประเทศไทยมากที่สุด โดยยอดจะสามารถเพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 1.6 ล้านคันได้ ขณะที่ยอดขายในประเทศอยู่ที่ 750,000 คัน ยอดส่งออกประมาณ 890,000-900,000 คัน"
ส่วนปัญหาเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทุกๆ 1 บาท จะทำให้รายได้ที่เป็นเงินดอลลาร์เมื่อนำมาแลกเป็นเงินบาทหายไปเดือนละ 1,500 ล้านบาท ซึ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ได้ตั้งราคาขายรถยนต์ตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ไว้ที่ 33 บาท/ดอลลาร์ฯ ดังนั้นการที่เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีถึง 10% ส่งผลกระทบให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ประสบปัญหาขาดทุน ซึ่งเชื่อว่าการตั้งกองทุนช่วยเหลือ SMEs ของภาครัฐจะเข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องได้