สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.4% เมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐยืนยันว่าสหรัฐไม่มีนโยบายลดค่าเงินดอลลาร์ และระบุว่าสกุลเงินสำคัญๆของโลกยังคงเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 18.60 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 1,325.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,349.60-1,318.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 72.50 เซนต์ ปิดที่ 23.139 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.2 เซนต์ ปิดที่ 3.7815 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ดิ่งลง 13.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,673.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 586.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำนิวยอร์กร่วงลงเพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากไกธ์เนอร์กล่าวแสดงความเห็นว่า สกุลเงินสำคัญๆของโลกยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อมกับย้ำว่าสหรัฐไม่มีนโยบายลดค่าเงินดอลลาร์
นอกจากนี้ ไกธ์เนอร์ ยังกล่าวด้วยว่า เขาจะใช้เวทีการประชุมรมว.คลัง G-20 ที่เกาหลีใต้วันที่ 22-23 ต.ค. เพื่อหารือเรื่องแนวทางและนโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อผลักดันให้นานาประเทศเดินหน้ากำหนดหลักการด้านนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน
นอกเหนือจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแล้ว นักลงทุนยังเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2553 สัญญาทองคำทะยานขึ้นไปแล้ว 20%