นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะลงนามยกเลิกสัญญาอนุมัติขายข้าวปริมาณ 2 ล้านตันให้กับบริษัท เอ็มที เซ็นเตอร์เทรด จำกัด หลังจากเห็นว่าบริษัทดังกล่าวยังไม่มาทำสัญญา แม้ว่าจะมีการอนุมัติขายตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ยังเปิดโอกาสให้บริษัทดังกล่าวสามารถเข้ามาซื้อข้าวสต๊อกรัฐบาลได้ หากมีการเปิดจำหน่ายข้าวให้กับเอกชนอีกครั้ง เพราะไม่สามารถกีดกันผู้ส่งออกได้ แต่จะต้องทำตามเงื่อนไขที่คณะทำงานระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาลที่มีนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธานกำหนด คือต้องขนข้าวออกจากโกดังภายใน 5 เดือน โดยจะไม่มีการขยายระยะเวลาให้ และราคาจะต้องไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดคือเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าตันละ 1.2 หมื่นบาท
สำหรับการระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาลครั้งต่อไป กระทรวงพาณิชย์จะเร่งระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลก่อนเดือนพ.ย. ที่จะมีข้าวฤดูกาลใหม่ คือผลผลิตข้าวนาปี 2553/54 ออกมา เพื่อไม่ให้กระทบกับราคาตลาดข้าวภายในประเทศ โดยจะวิธีการหลายรูปแบบ
ซึ่งล่าสุดได้มีการเจรจากับหลายประเทศที่ต้องการซื้อข้าวสต๊อกรัฐบาลในแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยบางประเทศเสนอซื้อข้าวกับรัฐบาลไทยถึง 1 ล้านตัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ตามที่รัฐบาลประเทศนั้นร้องขอไว้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าราคาข้าวที่จำหน่ายภายจีทูจีจะเป็นราคามิตรภาพ ซึ่งอาจต่ำกว่าเกณฑ์ที่ขายให้กับเอกชนภายในประเทศ
สำหรับผลกระทบน้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคกลางและตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่ามีข้าวสต๊อกรัฐบาลหลายคลังได้รับผลกระทบแล้ว โดยมีความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 3 หมื่นกระสอบ ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ เบื้องต้นทุกคลังได้ทำประกันความเสี่ยงไว้อยู่แล้ว ซึ่งจะรอผลสรุปตัวเลขความเสียหายอีกครั้ง
พร้อมกันนี้ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบสต๊อกมันสำปะหลังเส้นของรัฐบาลที่มีอยู่ประมาณ 1 ล้านตัน หลังจากบริษัท เวลบลิ้ง ได้ขอยกเลิกสัญญาซื้อมันสำปะหลังเส้นสต๊อกรัฐบาล 3.5 แสนตัน โดยให้เหตุผลว่าสินค้าไม่มีคุณภาพ จึงต้องลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าไม่ได้คุณภาพหรือสินค้าสูญหายไม่เป็นไปตามจำนวนที่โกดังกลางรับฝากไว้ จะให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งเป็นคู่สัญญาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป