สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอดูความเคลื่อนไหวเรื่องค่าเงินจากการประชุมจี20 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ในวันศุกร์และเสาร์นี้ ซึ่งปฏิกริยาจากที่ประชุมอาจเป็นแรงกระตุ้นใหม่ๆ สำหรับนักลงทุน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับลง 50 ดอลลาร์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,325.1 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,315.60 - 1,328.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.1 เซนต์ ปิดที่ 23.118 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 1.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 3.7970 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ไต่ขึ้น 1.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,675.1 ดอลลาร์/ออนซ์ และพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 591.10 ดอลลาร์/ออนซ์
เทรดเดอร์กล่าวว่า นักลงทุนกำลังรอฟังแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นค่าเงินจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจเกิดใหม่ชั้นนำ 20 ประเทศ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ราคาทองร่วงลงรวม 3.4% ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เทรดเดอร์กล่าวว่า ตลาดอยู่ในระหว่างรอปรับฐาน โดยก่อนหน้าสัปดาห์นี้ ราคาทองได้ทะยานขึ้นถึง 21% แล้วในปีนี้ และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 16 ครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การที่เงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวแข็งค่าขึ้น ภายหลังการกล่าวแสดงความเห็นของนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ และการขึ้นดอกเบี้ยแบบนอกเหนือความคาดหมายของจีน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองร่วงลง
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ได้รายงานบทสัมภาษณ์ของนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐไม่มีนโยบายที่จะปรับลดเงินดอลลาร์ลงมาอีก เมื่อเทียบกับเงินเยนและเงินยูโร ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่
ขณะที่ เมื่อเย็นวันพุธที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ธันวาคม 2550 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น