ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า ในสัปดาห์หน้า (วันที่ 25-29 ต.ค.53) ธนาคารพาณิชย์จะมีการทยอยเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าในช่วงสิ้นเดือน ขณะเดียวกัน คาดว่าตลาดคงจะจับตามาตรการการซื้อสินทรัพย์ของเฟด ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงินไทยน่าจะยังทรงตัวใกล้เคียงระดับ 1.75% ท่ามกลางสภาพคล่องในตลาดเงินที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
ส่วนเงินบาทในประเทศอาจเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 29.75-30.05 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยจะต้องจับตากระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ และทิศทางของสกุลเงิน/ตลาดหุ้นในภูมิภาคภายหลังการประชุมกลุ่ม G-20 รวมถึงทิศทางของเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่-บ้านมือสองเดือนก.ย. ดัชนี PMI เขตชิคาโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. ตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 3/53 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
สำหรับเงินบาทในรอบสัปดาห์นี้ เงินบาทในประเทศ (Onshore) ปรับตัวในทิศทางที่อ่อนค่าลง เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนค่าลงท่ามกลางแรงขายทำกำไรก่อนผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่ แรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ ของนักลงทุนก่อนการประชุมกลุ่ม G-20 และข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีของจีน (สร้างความกังวลต่อแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก) ก็ส่งผลกดดันสกุลเงินเอเชีย และเงินบาทให้อ่อนค่าลงด้วยเช่นกัน
กระนั้นก็ดี กระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่ของเฟด กระตุ้นแรงขายเงินดอลลาร์ฯ และช่วยจำกัดการอ่อนค่าของเงินบาทในระหว่างสัปดาห์บางส่วน สำหรับในวันศุกร์ เงินบาทอ่อนค่ามาปิดตลาดปลายสัปดาห์ที่ระดับ 29.91 เทียบกับระดับ 29.80 บาท/ดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 ต.ค.)