นายหลิว ซีจิน รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีน เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพัฒนาคุณภาพของอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศ เนื่องจากจำนวนรถยนต์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบนท้องถนนกำลังส่งผลให้เกิดมลภาวะและการจราจรติดขัด
นายหลิวกล่าวว่า รัฐบาลจีนควรปรับเปลี่ยนนโยบายจากที่เคยสนับสนุนการเพิ่มกำลังการผลิต ไปเป็นการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน พร้อมกับแนะนำให้ผู้ผลิตรถยนต์ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยและควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด
ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีน (CAAM) ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ที่ผลิตในจีนพุ่งขึ้น 36% ต่อปี แตะระดับ 13.14 ล้านคันในเดือนก.ย. เนื่องจากนโยบายการลดราคารถยนต์ช่วยกระตุ้นประชาชนให้ซื้อรถยนต์มากขึ้น ขณะที่ CAAM คาดว่า ยอดขายและยอดการผลิตรถยนต์อาจพุ่งขึ้นกว่า 17 ล้านคันต่อปี
นายหลี่กล่าวว่า นอกเหนือจากปัญหามลภาวะแล้ว อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของจีนได้ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอัตราการใช้พลังงานและการจราจรที่ตัดขัดรุนแรง โดยมีรายงานว่าเมืองใหญ่ๆของจีนกำลังประสบปัญหาจราจรติดขัด โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด ซึ่งนายหลี่กล่าวว่า ปัญหาต่างๆเหล่านี้อาจทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนเติบโตอย่างไม่ยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม นายตง หยาง รองประธาน CAAM เชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนไม่ได้อยู่ในภาวะที่มีการขยายตัวรุนแรงเกินไป แม้มีรายงานว่าอุตสาหกรรมขยายตัวอย่างรวดเร็วก็ตาม
นายตงกล่าวว่า "ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ และถือว่าอยู่ในขั้นที่ปกติ โดยในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.อุตสากรรมขยายตัวสูงถึง 70-80% แต่ในเดือนมิ.ย.อัตราการขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ระดับ 22% และขยายตัวที่ระดับ 14-17% ในไตรมาส 3" สำนักข่าวซินหัวรายงาน