นาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่า มาเลเซียเตรียมทุ่มเงินลงทุนมูลค่า 4.44 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อผลักดันมาเลเซียให้เป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2563 ภายใต้แผนปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ (ETP)
ในการเปิดตัวแผนปฏิรูปเศรษฐกิจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (26 ต.ค.) นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียจะมีส่วนในการลงทุน 8% ของทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุนของภาคเอกชน
"ข่าวดีคือ 92% ของการลงทุนภายใต้แผนปฏิรูปเศรษฐกิจจะมาจากภาคเอกชน และ 73% ของการลงทุนภาคเอกชนนี้จะมาจากการลงทุนโดยตรงในประเทศ" นายนาจิบกล่าว
นายนาจิบกล่าวว่า 12 ภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของชาติ (12 National Key Economic Areas: NKEA) ที่อยู่ในแผนปฏิรูปเศรษฐกิจ จะสร้างรายได้รวม 73% ของรายได้รวมทั้งหมดในประเทศ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้มาเลเซียบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2563
12 ภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของชาติประกอบด้วย น้ำมัน ก๊าซ และพลังงาน, น้ำมันปาล์ม, บริการด้านการเงิน, การท่องเที่ยว อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
"เป้าหมายของเราคือการทำให้ประชาชนมีรายได้ต่อหัว 15,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2563 และแผนปฏิรูปเศรษฐกิจก็ทำให้เรามองเห็นทิศทางที่ชัดเจนในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว"
"เราไม่มีทางเลือก หากเราประสบความล้มเหลวในการปฏิรูปเศรษฐกิจเราจะต้องถูกโดดเดี่ยว ขณะที่ประเทศอื่นในภูมิภาคก็จะแซงหน้าเราไปเรื่อยๆ" นายนาจิบกล่าวย้ำ
นอกจากนั้นผู้นำมาเลเซียยังกล่าวว่าแผนปฏิรูปเศรษฐกิจจะเปลี่ยนบทบาทของรัฐบาลมาเลเซียจากผู้สนับสนุนด้านการเงินเป็นผู้ให้บริการ ในการลดค่าใช้จ่ายสาธารณะ
โครงการต่างๆภายใต้แผนปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศซึ่งได้รับการยืนยันแล้วประกอบด้วยโครงการสร้างศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มูลค่า 2.6 หมื่นล้านริงกิต (8.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และโครงการสร้างโรงงานผลิตอิเล็กทรอนิกเวเฟอร์ในรัฐเคดาห์ทางภาคเหนือของคาบสมุทรมลายู มูลค่า 1.9 พันล้านริงกิต (612.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นอกจากนั้นยังมีโครงการสร้างโรงงานเชื้อเพลิงชีวภาพ 5 แห่งในรัฐซาบาห์ทางภาคตะวันออกของมาเลเซีย รวมถึงโครงการสร้างโรงแรมระดับ 6 ดาวในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มูลค่า 1.2 พันล้านริงกิต (387.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ไอดริส จาลา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ายังมีการเสนอโครงการต่างๆอีกหลายโครงการภายใต้แผนปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศ อาทิ โครงการสร้างโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ ระบบขนส่งมวลชนความเร็วสูงในกัวลาลัมเปอร์และพื้นที่โดยรอบ รวมถึงรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างมาเลเซียและสิงคโปร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน