SME แบงก์ คาดปี 53 ปล่อยสินเชื่อ 8 หมื่นลบ. สร้างผลกำไร 500-600 ลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 26, 2010 11:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า ในปี 53 ธนาคารตั้งเป้ายอดสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 8 หมื่นล้านบาท จากปี 52 ที่มียอดสินเชื่อ 5.6 หมื่นล้านบาท และในปี 54 คาดว่ายอดสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 1 แสนล้านบาท โดยในปัจจุบันธนาคารมียอดสินเชื่อ 7.3 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ การปล่อยสินเชื่อของธนาคารมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารปล่อยสินเชื่อหลากหลายโครงการเพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการ เช่น สินเชื่อ SME POWER เพื่อช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว, สินเชื่อ SME POWER เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโลจิสติกส์, สินเชื่อไทยเข็มแข็ง เป็นต้น

และในปี 54 ธนาคารยังมีแผนออกสินเชื่ออีกหลายโครงการเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการต่างๆ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้มีการเปลี่ยแปลงทัศนคติในการทำงานของพนักงาน โดยให้พนักงานเน้นการทำงานแบบเชิงรุกมากขึ้นคือจะต้องเป็นฝ่ายออกไปหาลูกค้าด้วยตนเอง ไม่ใช่เป็นฝ่ายรอให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเหมือนที่ผ่านมา

“ธนาคารตั้งเป้ายอดสินเชื่อสิ้นปีนี้ที่ 8 หมื่นล้านบาท ถ้าไม่ได้ก็ใกล้เคียง ตอนนี้ก็ 7.3 หมื่นล้านแล้ว และคาดว่าในปี 54 จะถึง 1 แสนล้าน ซึ่งเราก็จะพยายามขับเคลื่อนอย่างเต็มที่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยที่ผ่านมาเราก็ให้พนักงานทั้งในต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯทำการตลาดแบบ knock the door คือต้องเป็นฝ่ายวิ่งออกไปหาลูกค้าเอง ไม่ใช่นั่งอยู่แต่ในออฟฟิศแล้วรอให้ลูกค้าเข้ามาหา ซี่งที่ผ่านมาก็ถือว่าค่อนข้างที่จะประสบความสำเร็จ"นายโสฬส กล่าว

ทั้งนี้ จากยอดการปล่อยสินเชื่อที่เติบโตต่อเนื่อง คาดว่าจะช่วยผลักดันให้ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 500-600 ล้านบาท

สำหรับข้อเสนอการเพิ่มทุนธนาคารจำนวน 2,500 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตอบรับจากกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าธนาคารอาจจะยังไม่ได้รับการอนุมัติการเพิ่มทุนดังกล่าว แต่ก็มั่นใจว่าจะมีเงินทุนเพียงพอในการปล่อยสินเชื่อต่อไปได้

“ถึงแม้ทุนเราจะน้อยกว่าแบงก์อื่นๆ แต่เราก็เชื่อว่าจะสามารถแข่งขันกับเขาได้ อย่างทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าพอเวลาเราลงไปจับลูกค้ากลุ่มไหน ทางแบงก์พาณิชย์ต่างๆก็จะลงมาแข่งทันที แปลว่าเขาเห็นศักยภาพของเราและกลัวว่าเราจะแย้งลูกค้าไปหมดจึงต้องลงมาแข่ง อย่างการที่ทางเราเสนออัตราดอกเบี้ยปีแรก 5% ปีต่อไป 5% ครึ่ง ตอนนี้ก็เริ่มมีแบงก์พาณิชย์ทำตามบ้างแล้ว แต่เราก็จะยังคงอัตราดอกเบี้ย 5% เหมือนเดิมในปีหน้าต่อ ซึ่งถึงแม้ว่าจะได้กำไรน้อย แต่เราก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบปัญหา ก็คาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจก็คงจะฟื้นตัวขึ้น"นายโสฬส กล่าว

ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะลดลงเหลือเพียง 23% หรือ 1.7 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มีอยู่ 25% และคาดว่าสิ้นปี 54 จะลดให้เหลือ 10% หรือ 1.3 หมื่นล้านบาท โดย NPL ที่ลดลงต่อเนื่องส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากธนาคารได้เดินหน้าฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกหนี้ที่สงสัยว่าจะเป็นหนี้สูญหรือ NPL รวมมูลค่า 7,000 ล้านบาท เพื่อยึดทรัพย์และขายทอดตลาด จากยอดสินเชื่อที่มีอยู่ทั้งสิ้น 7.3 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ก่อนการฟ้องร้องธนาคารจะมีการเรียกผู้ประกอบการเข้ามาเจรจาก่อน หากรายใดเห็นว่ายังดำเนินกิจการได้ต่อทางธนาคารก็จะเข้าไปช่วยเหลือเพื่อประคองให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งการช่วยเหลือด้านอัดฉีดเงินเพิ่ม ปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารงาน แต่รายใดที่ไม่เข้ามาเจรจาธนาคารก็จะฟ้องทันที เพื่อยึดทรัพย์ขายทอดตลาด คาดว่าจะมีรายได้กลับมา 80-90% เพราะส่วนใหญ่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ได้ยึดทรัพย์กลับมาแล้วกว่า 300 ล้านบาท

ด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ ทางธนาคารก็กำลังจะมีมาตรการออกมาให้ความช่วยเหลือในเร็วๆนี้ โดยมาตรการที่จะนำมาใช้จะยึดรูปแบบเดียวกับตอนเหตุการณ์สึนามิและการจราจลบริเวณแยกราชประสงค์ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้จากเหตุการณ์น้ำท่วมได้ แต่ในเบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท โดยความเสียหายที่แท้จริงจะมีการประเมินอีกครั้งหลังจากน้ำลดลงแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ