ยูโรสแตท ซึ่งเป็นสำนักงานสถิติของสภาพยุโรป หรือ อียู เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ของภาคอุตสาหกรรมในเขตยูโรโซนได้ขยายตัวขึ้น 5.3% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคม
โดยดัชนีภายหลังจากการปรับค่าแล้วได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ลดลง 1.8% ในเดือนกรกฎาคม
ส่วนยอดสั่งซื้อใหม่ของภาคอุตสาหกรรมในประเทศสมาชิกอียู 27 ประเทศ ในเดือนสิงหาคมขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายเดือน หลังจากที่ลดลง 1.6% ในเดือนกรกฎาคม
เมื่อแยกเป็นรายอุตสาหกรรมต่างๆแล้ว ยอดสั่งซื้อใหม่สินค้าทุนขยายตัว 8.1% ในเขตยูโรโซน และขยายตัว 6.0% ในกลุ่มประเทศอียู ส่วนสินค้าอุปโภคคงทนขยายตัว 5.4% และ 2.1% ตามลำดับ ใขณะที่สินค้ากึ่งสำเร็จรูปมียอดสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้น 3.4% ในเขตยูโรโซนและ 2.5% ในเขตอียู และสินค้าอุปโภคที่ไม่คงทนมียอดซื้อเพิ่มขึ้น 0.7% และ 0.4% ตามลำดับ
หากเปรียบเทียบกันระหว่างประเทศสมาชิกอียูแล้ว ยอดสั่งผลิตสินค้าของภาคอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มขึ้นใน 11 ประเทศและลดลงใน 11 ประเทศเท่ากัน ส่วนประเทศที่ได้รับยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นสูงสุดได้แก่ เดนมาร์ก ซึ่งขยายตัว 21% ขณะที่ยอดสั่งซื้อในฮังการีลดลงสูงสุดถึง 8.6%
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคมปี 2552 ยอดสั่งซื้อใหม่ของภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 24.4% ในเขตยูโรโซน และเพิ่มขึ้น 22.6% ในสหภาพยุโรป สำนักข่าวซินหัวรายงาน