ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฟื้น หนุนดอลล์พุ่งเทียบสกุลเงินหลักๆ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 27, 2010 07:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์มองว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะดำเนินการอย่างระมัดระวังมากขึ้นหากมีการพิจารณาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.87% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.480 เยน จากระดับของวันจันทร์ (25 ต.ค.) ที่ 80.780 เยน และทะยานขึ้น 1.43% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9846 ฟรังค์ จากระดับ 0.9707 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.78% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3854 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3963 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์ดีดขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5836 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5731 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.69% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9844 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.9912 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.44% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7482 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7515 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.2 จุด จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 48.6 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 49.2 จุด

ขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากนายโยชิฮิโกะ โนดะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่า ทางการญี่ปุ่นอาจใช้มาตรการสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน เพราะเงินเยนที่แข็งค่ากำลังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและทำให้บริษัทญี่ปุ่นเสียเปรียบด้านการค้าในตลาดโลก

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้แรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์มองว่า คณะกรรมการเฟดจะดำเนินการอย่างระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้นหากมีการพิจารณาใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังไม่มั่นใจว่าเฟดจะนำมาตรการดังกล่าวมาใช้เมื่อใดและมีมูลค่ามากเพียงใด

สถาบันวิจัย GfK เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับ 4.9 จุดในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2551 เนื่องจากผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ อันเนื่องมาจากการว่างงานที่ลดลง

ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษ ขยายตัว 0.8% ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% และเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 1.2%

นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดในวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในนิวยอร์กซิตี้เดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ