โธมัส มานน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองแห่งสถาบัน Brookings Institution แสดงความเห็นว่า ประเด็นเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐ ซึ่ครอบคลุมถึงประเด็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไปจนถึงตัวเลขจ้างงานและยอดขาดดุล
มานน์กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐเพิ่งจะผ่านพ้นภาวะถดถอยรุนแรงไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีจำนวนคนว่างงานเกือบ 8.5 ล้านคน ก่อนที่เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็เป็นไปอย่างล่าช้า ในขณะที่อัตราว่างงานเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับ 10% โดยเฉพาะในรัฐเนวาด้า ที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นด้วยเลขสองหลัก จึงทำให้วุฒิสมาชิกแฮร์รี่ รี้ด จากพรรคเดโมแครต ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดกับคู่แข่งคนสำคัญจากพรรครีพับลิกันอย่างชารอน แองเจิล
นอกเหนือจากอัตราว่างงานแล้ว ประเด็นการขาดดุลงบประมาณยังเป็นอีกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้ง เพราะแม้ชาวอเมริกันจะยอมรับว่าภาระหนี้ของประเทศที่รัฐบาลของบารัค โอบามา แบกรับอยู่เป็นผลพวงมาจากการบริหารของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แต่พรรคเดโมแครตก็ไม่รอดพ้นจากการถูกโจมตีว่ามีส่วนที่ทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ ชาวอเมริกันยังกังวลว่า ยอดขาดดุลงบประมาณที่สูงขึ้นอาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะเปราะบาง หรืออาจทำให้รัฐบาลกลางของสหรัฐต้องเผชิญกับปัญหาหนี้สาธารณะเหมือนกับบางประเทศในยุโรป สำนักข่าวซินหัวรายงาน