สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) เพราะได้ปัจจัยลบจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจมีวงเงินน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ และมีการคาดการณ์ว่าคณะกรรมการเฟดอาจจะระมัดระวังมากขึ้นเมื่อมีการพิจารณาใช้มาตรการดังกล่าว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 16.00 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1,322.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เคลื่อนตัวในช่วง 1,318.60-1,343.70 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 42.60 เซนต์ ปิดที่ 23.404 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 9.35 เซนต์ ปิดที่ 3.7755 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ดิ่งลง 25.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,678.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 6.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 619.15 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดทองคำถูกกดดันอย่างหนักจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่เฟดมีแนวโน้มว่าจะประกาศใช้นั้น อาจมีวงเงินน้อยกว่าหรือล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่า เฟดจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์
ปีเตอร์ โธมัส ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ PFGbest กล่าวว่า "ราคาทองมีแนวโน้มเข้าสู่ระยะพักฐานในช่วงสั้นๆ โดยคาดว่าราคาอาจจะดิ่งลงไปแตะระดับ 1,230 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่จะซื้อทองคำสะสมไว้ นอกจากนี้ ตลาดทองคำมีแนวโน้มซบเซาเนื่องจากเทศกาลเฉลิมฉลองหลายเทศกาลในเอเชียใกล้จะสิ้นสุดลง"