ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบสกุลเงินหลักๆ จากความไม่แน่นอนของมาตรการเฟด

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 28, 2010 07:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) หลังจากวอลล์สตรีท เจอร์นัลระบุว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่เฟดมีแนวโน้มว่าจะนำมาใช้นั้น อาจมีวงเงินน้อยกว่าหรือล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.36% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.690 เยน จากระดับของวันอังคาร (26 ต.ค.) ที่ 81.400 เยน และพุ่งขึ้น 0.64% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9903 ฟรังค์ จากระดับ 0.9840 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.69% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3764 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3859 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดิ่งลง 0.47% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5765 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5840 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.39% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9718 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9855 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.63% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7439 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7486 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่ามาตรการ QE ที่เฟดมีแนวโน้มว่าจะประกาศใช้นั้น อาจมีวงเงินน้อยกว่าหรือล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่า เฟดจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักหลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวในที่ประชุมเฟดสาขาบอสตันว่า อัตราว่างงานที่เคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน และตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ อาจทำให้เฟดจำเป็นต้องใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม รวมถึงการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะประกาศใช้มาตรการ QE ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะยิ่งทำให้สกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าอ่อนลงไปอีก

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแม้นักวิเคราะห์จากหลายสำนักในออสเตรเลียคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 4.75% ในการประชุมต้นเดือนหน้า แม้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยายตัว 0.7% ในไตรมาส 3 หรือขยายตัว 2.8% ต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวขึ้น 0.8% ในไตรมาส 3 หรือ 2.9% ต่อปี

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 6.6% แตะระดับ 307,000 ยูนิต/ปี จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 288,000 ยูนิต/ปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 300,000 ยูนิต

นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดในวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ