นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก(สคฝ.) เปิดเผยว่า นโยบายการลงทุนหรือนโยบายการบริหารพอร์ตของกองทุน สคฝ.ได้ยึดมั่นในเรื่องความมั่นคงสูงและความปลอดภัยของเงินต้นเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเปิดดำเนินการ ทั้งนี้ เป็นแนวทางเดียวกับสถาบันประกันเงินฝากในประเทศต่างๆ
ปัจจุบัน สคฝ.ได้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เงินฝากธนาคารแห่งประเทศไทยหรือตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศเป็นผู้ออก และเงินฝากธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น
ทั้งนี้ ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการลงทุนของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ.2553 ให้การนำเงินกองทุนคุ้มครองเงินฝากไปลงทุน จะต้องลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของการลงทุนทั้งหมด โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
นายสิงหะ กล่าวว่า การลงทุนที่รัดกุมของสถาบันคุ้มครองเงินฝากทำให้ผู้ฝากเงินมั่นใจได้ว่ากรณีที่สถาบันการเงินเกิดปัญหา ประชาชนส่วนใหญ่ที่มีเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาทจะไม่ได้รับผลกระทบ จึงไม่ต้องตระหนกตกใจเร่งรีบถอนเงินออกมา เนื่องจากหากเกิดกรณีที่สถาบันการเงินถูกสั่งปิดการดำเนินกิจการ สคฝ.ก็พร้อมที่จะจ่ายเงินคืนให้กับผู้ฝากเงินตามวงเงินการคุ้มครองที่กฎหมายกำหนดไว้
ทั้งนี้ จากตัวเลขสถิติ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.53 พบว่ามีจำนวนผู้ฝากเงินทั้งสิ้นประมาณ 58.6 ล้านรายที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก คิดเป็นเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองทั้งสิ้น 6.9 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ดี ถ้าวงเงินคุ้มครองลดลงเหลือ 1 ล้านบาท ตามที่กำหนดใน พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝากฯ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.55 จะมีผู้ฝากที่มีเงินฝากภายในวงเงินคุ้มครองจำนวน 1 ล้านบาท จำนวน 57.7 ล้านราย หรือร้อยละ 98.52 ของจำนวนผู้ฝากทั้งหมด คิดเป็นเงินฝากจำนวน 1.54 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 22.27 ของเงินฝากทั้งหมด