ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: กระแสคาดเฟดใช้มาตรการ QE ฉุดดอลลาร์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ

ข่าวต่างประเทศ Friday October 29, 2010 07:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะยิ่งทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอีก

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.81% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.030 เยน จากระดับของวันพุธ (27 ต.ค.) ที่ 81.690 เยน และดิ่งลง 0.71% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9834 ฟรังค์ จากระดับ 0.9904 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.13% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3924 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3768 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์ทะยานขึ้น 1.02% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5933 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5772 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.60% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9779 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 0.9721 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7533 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7453 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนกลับเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐเพราะคาดว่าเฟดอาจจะประกาศใช้มาตรการ QE ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่ามาตรการ QE อาจมีวงเงินน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5 แสนล้านดอลลาร์ ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์

การคาดการเรื่องมาตรการ QE มีน้ำหนักมากขึ้นเมื่อเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวในที่ประชุมเฟดสาขาบอสตันเมื่อไม่นานมานี้ว่า อัตราว่างงานที่เคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน และตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ อาจทำให้เฟดจำเป็นต้องใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม รวมถึงการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล

นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดในวันที่ 2-3 พ.ย.นี้อย่างใกล้ชิด เพราะนอกจากจะมีการคาดการณ์เรื่องมาตรการ QE แล้ว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ

รายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจครั้งล่าสุดของเฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวในระดับปานกลาง โดยกิจกรรมด้านการผลิตในเกือบทุกเขตมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของปริมาณการผลิตและยอดสั่งซื้อในภาคการผลิต ขณะที่เลขการใช้จ่ายผู้บริโภคยังคงฟื้นตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงอ่อนไหวต่อราคาสินค้าและเลือกซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็นที่สุด ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยในเกือบทุกเขตยังคงอ่อนแอ โดยมีรายงานว่ายอดขายที่อยู่อาศัยในปีนี้ยังต่ำกว่าปีที่แล้ว

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 3 ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กซิตี้เดือนต.ค. นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวในอัตรา 2% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัวเพียง 1.7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ