กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังเต็มไปด้วยความเสี่ยง เนื่องจากขณะนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาจากหลายปัจจัย อาทิ ความแข็งแกร่งด้านการเงินในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงปัญหาฟองสบู่ด้านราคาที่เกิดจากกระแสเงินทุนไหลเข้าจำนวนมากในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
รายงานในหัวข้อ "IMF Note on Global Economic Prospects and Policy Challenges" ของไอเอ็มเอฟระบุว่า "ภาวะตึงตัวที่สูงขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ การที่ไม่มีแผนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการเงินที่เชื่อถือได้ในระยะกลาง ความเสี่ยงที่ไหลทะลักมาจากวิกฤตความวุ่นวายในตลาดตราสารหนี้ ความเสี่ยงของภาวะราคาสินทรัพย์ฟองสบู่ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อันเนื่องมาจากกระแสเงินทุนไหลเข้าจำนวนมหาศาล และความกังวลต่อนโยบายกีดกันการค้าและการเงิน ตลอดจนภาวะไร้เสถียรภาพของค่าเงิน ล้วนเป็นปัจจัยที่ยังคงฉุดรั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ"
สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างกลุ่มจี-20 นั้น การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เคยเกิดจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเพิ่มสินค้าคงคลังนั้นจะค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นการลงทุน แต่ถึงกระนั้นการลงทุนในภาคเอกชนยังคงซบเซา
นอกจากนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศจี-20 ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นจากปัจจัยหนุนที่สำคัญด้านอุปสงค์ภายในประเทศและบรรยากาศการค้าระหว่างประเทศนั้น กลับอ่อนแรงลงในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟระบุว่า เศรษฐกิจโลกขยายตัวได้แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่คาดว่า อัตราการขยายตัวจะเริ่มช้าลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้และครึ่งแรกของปีหน้า