นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “เรื่อง กองทุนสวัสดิการชาวนา” ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานีว่า กระทรวงเกษตรฯ จะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเช่นนี้ไปทั่วทุกภาคของประเทศ เพื่อที่จะได้รวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดนำไปปรับปรุงในเนื้อหาสาระของกองทุนสวัสดิการชาวนา ให้เป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อชาวนาทั้งประเทศ และจะได้เสนอให้รัฐบาลและรัฐสภาได้พิจารณาต่อไป
กระทรวงเกษตรฯ ได้พิจารณายกร่างกองทุนสวัสดิการชาวนา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สำหรับกองทุนดังกล่าวจะช่วยดูแลสนับสนุนปัจจัยการผลิตต่างๆ เช่น เมล็ดพันธุ์ข้าว ปุ๋ยและสวัสดิการอื่นๆ ตลอดจนจะจ่ายเป็นเงินบำเหน็จหรือบำนาญให้แก่ชาวนา ได้มีเงินเลี้ยงชีพตลอดอายุขัย
นายธีระ กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรฯ พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดพัฒนางานด้านการผลิตข้าวมาอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันสามารถที่จะดำเนินการผลิตข้าวได้ในปริมาณที่น่าพอใจ คือ ปีละประมาณ 30 ล้านตันข้าวเปลือก หรือประมาณ 20 ล้านตันข้าวสาร
ซึ่งข้าวที่ผลิตได้นี้ นอกจากจะพอเพียงสำหรับบริโภคภายในประเทศแล้ว และสามารถส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้มากที่สุดในโลกติดต่อกันมาเป็นเวลายาวนานประมาณ 30 ปี โดยในปัจจุบันส่งออกได้ปีละประมาณ 8-10 ล้านตันข้าวสาร หรือประมาณครึ่งหนึ่งของผลผลิตที่ผลิตได้ในแต่ละปี สร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 2 แสนล้านบาท
“การผลิตข้าวให้ได้ผลผลิตพอเพียงสำหรับบริโภคภายในประเทศ และเพื่อการส่งออกนั้น เป็นแต่เพียงงานส่วนหนึ่งเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดที่กระทรวงเกษตรฯ ยึดมั่นมาโดยตลอดก็คือ การสร้างชีวิตที่มั่นคงให้กับชาวนา ในปัจจุบันเรามีชาวนารวมทั้งสิ้นประมาณ 3 ล้าน 7 แสนครัวเรือน หรือประมาณ 16-17 ล้านคน ถือได้ว่าเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ถ้าหากคนกลุ่มนี้มีความเข้มแข็งมั่นคง ก็จะเป็นพลังมหาศาลที่ผลักดันวงล้อเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้า” รมว.เกษตรฯ กล่าว