สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์ รถบรรทุก และรถบัสของญี่ปุ่นในช่วงครึ่งแรกของปีงบ 2553 เพิ่มขึ้น 34.2% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 2,376,361 คัน ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี
สมาคมฯ ระบุว่า สาเหตุที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นนั้น เป็นเพราะอุปสงค์ที่ฟื้นตัวในหลายภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ หลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยได้ส่งผลให้ยอดส่งออกร่วงลงในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ยอดการส่งออกไปยังเอเชียในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย.ขยายตัวขึ้น 47.1% แตะ 277,000 คัน ส่วนยอดส่งออกไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
โดยเมื่อแบ่งตามประเภทของรถแล้ว ยอดการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีเครื่องยนต์ขนาดสูงกว่า 2 ลิตรนั้น เพิ่มขึ้น 39.4% ส่วนการส่งออกรถขนาดเล็กและรถบรรทุกก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน
ขณะที่ยอดการผลิตรถภายในประเทศช่วง 6 เดือนดังกล่าว เพิ่มขึ้น 24.1% แตะ 4,783,641 คัน ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดส่งออกที่ดีดตัว และมาตรการจูงใจให้ซื้อรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล สำนักข่าวเกียวโดรายงาน