กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 2% ในไตรมาส 3 ปีนี้ นับเป็นการขยายตัวไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง แม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซา
อัตราการขยายตัวในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ หลังจากที่ในไตรมาส 2 นั้น เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวได้ 1.7%
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจีดีพีจะได้รับการปรับทบทวนอีกสองครั้งในช่วงสองเดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ระบุว่า อัตราขยายตัวที่เพิ่มขึ้นของจีดีพีในไตรมาส 3 มีสาเหตุหลักๆ มาจากการใช้จ่ายส่วนบุคคล และการลงทุนในสินค้าคงคลังภาคเอกชนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งช่วยหักลบกับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่ชะลอตัวลงมาก
โดยการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งคิดเป็น 70% ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ขยายตัว 2.6% ในไตรมาส 3 ซึ่งสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 2.2% และเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2549 ซึ่งในครั้งนั้น การใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้นถึง 4.1%
ส่วนการลงทุนในสินค้าคงคลังภาคเอกชน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของอัตราการขยายตัวในไตรมาส 3 นั้น เพิ่มขึ้น 1.44% เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 0.82% ในไตรมาส 2
ขณะที่การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยร่วงลง 29.1% สวนทางกับไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 25.7%
เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.6% ต่อปึ ในปี 2553 และ 2.3% ในปี 2554
ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า อัตราการขยายตัวในไตรมาส 3 ช่วยยืนยันให้เห็นภาพรวมของเศรษฐกิจว่ายังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากภาวะถดถอยรุนแรง แต่การขยายตัวยังเป็นไปอย่างเชื่องช้าและไม่แข็งแกร่งพอ ท่ามกลางอัตราว่างงานของสหรัฐที่ยังคงอยู่ในสูงถึง 9.6%