นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังจะหารือกับนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดว่าบ่ายวันนี้หรือพรุ่งนี้จะมีหารือกันก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะมีมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบรอบที่ 2 ออกมา
ในส่วนของมาตรการของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมานั้นเป็นที่คาดว่า จะเป็นมาตรการเพิ่มเติมและส่งผลเพิ่มแรงกดดันให้สกุลเงินต่างๆ ทั้งนี้ในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจวันนี้ ได้มีการทบทวนมติ ครม.เกี่ยวกับเรื่องของมาตรการลดผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทที่ออกไปก่อนหน้านี้ มาตรการดังกล่าวทำให้เงินที่ไหลเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ลดลงพอสมควรและส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนไทยอยู่ในระดับที่คงที่
ด้านนายกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจวันนี้ ได้มีการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการประกาศนโยบายทางการเงินของสหรัฐที่จะออกมาในวันพุธที่ 3 พ.ย.53 ตามเวลาในประเทศไทย เพื่อเตรียมออกมาตรการต่างๆ ในการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนหากได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว เพราะคาดการณ์ว่าหลังประกาศของสหรัฐอาจทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินอื่นๆ
"ได้มีการเตรียมมาตรการความพร้อม ทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว รวมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อรองรับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่คาดว่าวันพุธนี้จะมีการประกาศออกมา ซึ่งอาจส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบเงินทุกสกุล เราจึงเตรียมความพร้อมในส่วนของมาตรการต่างๆ ที่เราอาจจะนำมาใช้ในการดูแลเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนของเราด้วย" นายกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจได้มีการทบทวน 5 มาตรการที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนที่ประกาศใช้ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะมาตรการเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% จากกำไรและดอกเบี้ยจากการลงทุนในตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างประเทศ พบว่า เม็ดเงินลงทุนต่างประเทศ ที่เข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ลดลงอย่างชัดเจน และส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ระดับคงที่ ที่ 29 บาท/ดอลลาร์ ตั้งแต่ประกาศใช้มาตรการดังกล่าว
และวันนี้ ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมกาลงทุน (บีโอไอ) เพื่อเพิ่มช่องทางการช่วยเหลือทางการเงินให้บริษัทไทยมากขึ้นที่จะไปลงทุนในต่างประเทศ โดยพิจารณาความความเหมาะสมในหลายอุตสาหกรรมที่ควรจะไปลงทุนในภูมิภาคใดบ้าง