เฟดเผยยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐในไตรมาส 3 หดตัว 1.5% บ่งชี้ผู้บริโภคกังวลอัตราว่างงาน

ข่าวต่างประเทศ Monday November 8, 2010 06:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% แต่ยอดการกู้ยืมในไตรมาส 3 ปีนี้ หดตัวลง 1.5% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคลดการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจและความวิตกกังวลที่มีต่ออัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง

ข้อมูลของเฟดระบุว่า ยอดการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.1 พันล้านดอลลาร์ แตะระดับ 2.4117 ล้านล้านดอลลาร์ ส่วนยอดการกู้ยืมเงินผ่านบัตรเครดิตลดลง 12.1% หรือ 8.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 25 ขณะที่ยอดการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อรถยนต์และรถบ้านเคลื่อนที่ เพิ่มขึ้น 7.9% หรือ 1.04 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.

อย่างไรก็ตาม ยอดการกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ลดลง 1.5% ขณะที่ยอดการกู้ยืมเงินผ่านบัตรเครดิตลดลง 8.75% และยอดการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อรถยนต์และรถบ้านเคลื่อนที่ เพิ่มขึ้น 1.5% ในไตรมาส 3

การปรับตัวลงของยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคในไตรมาส 3 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคลังเลที่จะกู้ยืมเงินในช่วงที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างล่าช้าและอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าอัตราว่างงานเดือนต.ค.ยังคงยืนอยู่ที่ระดับ 9.6%

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคนั้น ยังคงอยู่ในภาวะที่เปราะบางและอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ