นายมูฮัมหมัด นอร์ ผู้อำนวยการบริหารของสำนักงานเลขานุการที่ประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวในวันนี้ว่า รัฐมนตรีและผู้นำกลุ่มเอเปคอาจจะสามารถสรุปเรื่องยุทธศาสตร์การเติบโตแผนใหม่ และคาดว่า จะมีการนำยุทธศาสตร์ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ต่อไป ในระหว่างการประชุมเอเปค ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองโยโกฮาม่า
นายนอร์กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การเติบโตแผนใหม่สนับสนุนเศรษฐกิจภายในประเทศและเศรษฐกิจข้ามประเทศให้ขยายตัวอย่างสมดุลมากขึ้น อีกทั้งจะช่วยส่งเสริมสังคมโดยรวมมากยิ่งขึ้น และแก้ปัญหาที่ท้าทายต่างๆทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานอย่างยั่นยืน
นอกจากนี้ นายนอร์กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตของเราโดยผ่านทางนวัตกรรม และเศรษฐกิจที่อาศัยองค์ความรู้ และช่วยระบบเศรษฐกิจพลเมืองในภูมิภาค
นายนอร์ยังกล่าวด้วยว่า ในขณะนี้ยังคงมีการประเมินความคืบหน้าของเป้าหมายบอร์กอร์ (Bogor Goals) ซึ่งได้นำมาใช้ในปี 2537 เพื่อความพยายามที่จะบรรลุเป้าหมาย "การเปิดเสรีการค้าและการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกไม่ให้ล่าช้ากว่าปี 2553 สำหรับกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม และไม่ให้ล่าช้ากว่าปี 2563 สำหรับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา"
การประเมินความคืบหน้าของเป้าหมายบอร์กอร์ได้ดำเนินการโดยการศึกษาความคืบหน้าของเศรษฐกิจใน 13 ประเทศ รวมถึง 5 ประเทศกลุ่มอุตสาหกรรม และ 8 ประเทศกลุ่มที่กำลังพัฒนาซึ่งเป็นสมาชิกเอเปค
ทั้งนี้ นายนอร์คาดว่า จะสามารถสรุปการประเมินดังกล่าวได้ในที่ประชุมที่เมืองโยโกฮาม่า และนำเสนอต่อผู้นำในที่ประชุม
นายนอร์ยังกลาวด้วยว่า กลุ่มเอเปคมีความกระตือรือร้นที่จะทำงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยจะมุ่งเน้นเรื่องการสนับสนุนทั้งในด้านการค้าและการลงทุน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสในกลุ่มเอเปคเริ่อมเปิดฉากขึ้นที่เมืองโยโกฮาม่าเมื่อวานนี้ ซึ่งจะมีการประชุมระดับรัฐมนตรี การประชุมสุดยอดประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) และการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเป็นรอบสุดท้าย
ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปีนี้ โดยกำหนดวาระการประชุมคือ "Change and Action" หรือ "เปลี่ยนแปลงและปฏิบัติ"