คต.เผยไทยสบช่องเพิ่มส่วนแบ่งตลาดแผ่นเทปพลาสติกหลังสหรัฐฯทบทวน GSP ปี53

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 8, 2010 14:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รักษาการรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ได้ประกาศใน Federal Register ฉบับวันที่ 26 ตุลาคม 2553 ในการพิจารณาทบทวนโครงการ GSP ประจำปี 2553 สหรัฐฯ รับคำร้องขอถอนสินค้าออกจากบัญชีสินค้าที่ได้รับสิทธิ GSP จำนวน 2 คำร้อง ในสินค้าถุงนอนให้กับทุกประเทศ และสินค้าแผ่นเทปพลาสติก ให้กับประเทศอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USITC) อยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบของการถอนสิทธิ GSP สำหรับสินค้าข้างต้น ซึ่งได้กำหนดเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้าสหรัฐฯ โดยมีกำหนดเวลาการยื่นคำร้องสนับสนุน และคัดค้าน ตั้งแต่ 18 พ.ย.-13 ธ.ค.53

ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 USITC จะรายงานผลกระทบของการถอนสิทธิ GSP ให้ USTR พิจารณาและจะประกาศผลการพิจารณาภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2554 และมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 กรกฎาคม ของปีถัดไป

นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า หากสหรัฐฯ ประกาศถอนสิทธิ GSP สินค้าถุงนอน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เนื่องจากที่ผ่านมาไทยไม่มีการส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยังตลาดสหรัฐฯ ส่วนสินค้าแผ่นเทปพลาสติกในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2553(ม.ค.—ส.ค.) อินโดนีเซียมีส่วนแบ่งตลาดสหรัฐฯร้อยละ 5.08 (มูลค่า 10.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) หากอินโดนีเซียถูกตัดสิทธิ GSP จะส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ได้ จากที่ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 0.21 (มูลค่า 0.42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกสินค้าของไทยอย่างมาก เนื่องจากสินค้าจากไทยจะได้รับการยกเว้นภาษีจากการได้รับสิทธิ GSP ในขณะที่อินโดนีเซียต้องเสียภาษีนำเข้าปกติที่มีอัตราสูงถึงร้อยละ 5.8


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ