สป.เตรียมเสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้ ครม.และหน่วยงานรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 8, 2010 15:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สป.) เตรียมเสนอผลสรุปจากการสัมมนาเรื่อง "มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะกลางและระยะยาว" ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการ

"สภาที่ปรึกษาฯ ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และจะเร่งทำการศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อเสนอแนะ แนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะกลางและระยะยาว เพื่อให้คณะรัฐมนตรีหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการ" นายโอกาส เตพละกุล ประธาน สป.กล่าว

โดยผลสรุปดังกล่าวมี 4 ประเด็น ได้แก่ 1.ศึกษาระบบการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนและอ่างเก็บน้ำในปัจจุบันว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด การบูรณาการของหน่วยงานต่างๆ มีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแล้วหรือไม่ และควรมีการปรับปรุงหรือเพิ่มเติมระบบการบริหารจัดการน้ำในประเด็นใดบ้าง นอกจากระบบที่มีอยู่แล้วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง

2.ศึกษาแผนงาน/โครงการของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาด้านอุทกภัยและภัยแล้งในระยะกลางและระยะยาว ว่ามีอยู่อย่างไร มีปัญหาอุปสรรคหรือข้อจำกัดในการดำเนินการในดำเนินการ และจะสามารถบูรณาการแผนงาน/โครงการดังกล่าวให้นำไปสู่การปฏิบัติและสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและปัญหาภัยแล้ง ได้อย่างแท้จริงได้อย่างไร

3.พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของแผนงาน/โครงการเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งในแต่ละลุ่มน้ำแต่ละภาค หากแผนงาน/โครงการใดมีความสำคัญพิเศษเร่งด่วนก็ควรพิจารณาเร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะกลางและระยะยาวได้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในปัจจุบัน ซึ่งจะได้ดำเนินการในทุกภูมิภาคในเชิงกว้าง โดยจะมีการพิจารณาเชิงลึกในบางพื้นที่

และ 4.พิจารณามาตรการด้านผังเมืองและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม ดินโคลนถล่มและภัยแล้งในอนาคต ในมิติต่างๆ เช่น การรักษาป่า การรักษาแหล่งกั้นน้ำ ฯลฯ

เนื่องจากช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ ประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมอันเกิดจากฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากและวาตภัยอย่างรุนแรงจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตประชาชนนับร้อยคนและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนหลายล้านคน มีทรัพย์สินเสียหายคิดเป็นจำนวนหลายหมื่นล้านบาท ทำให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่ประชาชนจำนวนมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ