นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการ (คชอ.) เปิดเผยว่า คชอ.จะเสนอต่อที่ประชุม ครม.ในการพิจารณาการขยายแนวทางทางการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ประสบภัยทางภาคใต้ ซึ่งมีทั้งกรณีของอุทกภัยและวาตภัย เป็นการขยายการช่วยเหลือเงินครอบครัวละ 5 พันบาทไปยังพื้นที่ภาคใต้ด้วย และ เสนอให้เยียวยาวแก่ชาวสวนยางเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเดิมที่ให้แก่พืชสวน 4,900 บาทต่อไร่นั้นไม่เพียงพอ
ส่วนงบประมาณที่คาดว่าต้องใช้เพิ่มเติมในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยทางภาคใต้นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่เพาะปลูกยางที่ได้รับความเสียหายจริง และขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ ครม.จะอนุมัติให้เยียวยาแก่ชาวสวนยางว่าจะให้ในอัตราไร่ละเท่าไหร่ ซึ่งตัวเลขนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ระหว่างการรวบรวมตัวเลขที่แท้จริง
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีพื้นที่เสียหายปลูกยางทางภาคใต้เสียหายจากวาตภัยและอุทกภัยรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.5 แสนไร่ ซึ่งการให้ความช่วยเหลือต้องแยกเป็น 2 กรณ๊ คือกรณีของชาวสวนยางที่เป็นสมาชิกของกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง และกรณีที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของกองทุน
โยในกรณีของชาวสวนที่เป็นสมิกของกองทุนสงเคราะห์ฯ ที่ได้รับความช่วยเหลืออยู่ประมาณ 11,000 บาทต่อไร่ จะมีการพิจารณาว่าจะเพิ่มวงเงินช่วยเหลืออีกหรือไม่ ส่วนกรณีของชาวสวนยางที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของกองทุนสงเคราะห์ฯ จะพิจารณาว่าจะให้ความช่วยเหลือในอัตราเดียวกันที่ 11,000 บาทต่อไร่ด้วยหรือไม่
รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้เข้าประเทศปีละจำนวนมาก ดังนั้นจะให้ใช้หลักเกณฑ์การเยียวยาช่วยเหลือเช่นเดียวกับพืชสวนชนิดอื่นที่ได้รับอยู่ในอัตรา 4,900 บาทต่อไร่คงจะไม่เพียงพอ อีกทั้งยางพาราเป็นพืชที่ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะได้ผลผลิต ดังนั้นจึงจะเสนอให้มีการเพิ่งวงเงินช่วยเหลือในอัตราที่มากกว่าพืชสวนชนิดอื่น ซึ่งขึ้นอยู่กับ ครม.จะพิจารณาหรือไม่