บริษัท โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช เปิดเผยว่า จำนวนบริษัทที่ล้มละลายในประเทศญี่ปุ่นเดือนต.ค.ลดลง 9.91% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 1,136 แห่ง ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากการใช้มาตรการช่วยเหลือบริษัทขนาดเล็กจากทางรัฐบาล รวมทั้งการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจส่งออกและบริษัทขนาดใหญ่
หนี้สินของบริษัทที่ล้มละลายเหล่านี้ พุ่งสูงขึ้น 79.11% แตะ 5.20 แสนล้านเยน ขณะที่การล้มละลายครั้งใหญ่ 3 รายการที่คิดเป็นสัดส่วนหนี้สินกว่า 5 หมื่นล้านเยนนั้น ส่งผลให้ตัวเลขโดยรวมของเดือนต.ค.นั้นสูงขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จากอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ 10 อุตสาหกรรมที่ตอบรับการสำรวจครั้งนี้นั้น พบว่า 7 อุตสาหกรรมมีจำนวนบริษัทที่ล้มละลายลดลง ขณะที่บริษัทในภาคบริการขนส่งและอสังหาริมทรัพย์นั้นมีสัดส่วนการล้มละลายที่สูงกว่าปีที่แล้ว สำหรับสถิติการล้มละลายในอุตสาหกรรมเกษตรกรรม ป่าไม้ ประมง และเหมืองแร่นั้น ยังอยู่ในระดับที่ทรงตัว
โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช ระบุว่าในรายงานอีกฉบับว่า การแข็งค่าของเงินเยนที่ระดับกว่า 80 เยนเมื่อช่วงกลางเดือนต.ค.นั้น ทำให้จำนวนบริษัทล้มละลายมีมากขึ้นในปีนี้ โดยบริษัทที่ล้มละลายเพราะการแข็งค่าของเงินเยนในช่วงเดือนม.ค.-ต.ค.นั้นมีจำนวนอยู่ทั้งสิ้น 58 แห่ง ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งมีบริษัทล้มะลาย 19 แห่ง
ทางด้านผลการสำรวจของไทโกกุ ดาต้าแบงค์ พบว่า จำนวนบริษัทล้มละลายในเดือนต.ค.นั้น ลดลง 10.3% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 960 แห่ง ส่วนหนี้สินสะสมเพิ่มขึ้นถึง 99.7% แตะ 5.01 แสนล้านเยน