นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติและเห็นชอบรายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินสำหรับปี 2554 ด้วยวิธีการทำสัญญากู้เงิน(Term Loan) กับธนาคารพาณิชย์ที่ประกอบกิจการในประเทศไทยและ/หรือสถาบันการเงินภาครัฐ วงเงินไม่เกิน 59,960.44 ล้านบาท ระยะเวลาไม่เกิน 4 ปี เพื่อนำมาใช้สำหรับแผนงานหรือโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนการกู้เงินตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552
นอกจากนี้ ครม.ได้อนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 วงเงินไม่เกิน 82,769.71 ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินและพันธบัตรรัฐบาลเพื่อลดความเสี่ยงในการบริหารหนี้และกระจายภาระการชำระหนี้ของรัฐบาลให้สอดคล้องกับกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อชำระหนี้ของรัฐบาล รวมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดสรรงบลงทุนของรัฐบาลเพื่อใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
ดังนั้น จึงเห็นควรกู้เงินด้วยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินและพันธบัตรรัฐบาลอายุ 12 — 20 ปี เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ในวงเงินไม่เกิน 82,769.71 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการปรับโครงสร้างหนี้ คือ การปรับ Portfolio ให้มีอายุเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 4 ปี เป็น 8.5 ปี และปรับอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเป็นอัตราคงที่เพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการปรับอัตราดอกเบี้ย รวมถึงเป็นการกระจายภาระหนี้ไม่ให้กระจุกตัวมากเกินไป
พร้อมกันนั้น ครม.ยังเห็นชอบให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดส่งคำขอรับจัดสรรวงเงินกู้พร้อมทั้งเอกสารรายละเอียดประกอบที่ครบถ้วนให้สำนักงบประมาณ (สงป.) พิจารณาภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 53 และให้ สงป.พิจารณาจัดสรรให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 8 ธันวาคม 53 หากหน่วยงานเจ้าของโครงการไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดเวลาให้ยกเลิกวงเงินกู้ส่วนที่ไม่ได้รับการอนุมัติจัดสรรจาก สงป. ยกเว้นโครงการที่ครม.มีมติขยายระยะเวลาการขอรับจัดสรรให้แล้ว เพื่อให้การกู้เงินและบริหารเงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ