ความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียเดือนพ.ย.ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน หลังจากที่ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลผู้ซื้อบ้านต้องจ่ายเงินผ่อนชำระบ้านสูงขึ้น
ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคในออสเตรเลียที่จัดทำโดยเวสต์แพค แบงกิ้ง กรุ๊ป และสถาบันเมลเบิร์ลระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลง 5.3% แตะที่ระดับ 110.7%
รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงในวันนี้มีขึ้นหลังจากที่นายเกล็น สตีเว่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่ธนาคารได้ตรึงดอกเบี้ยมาเป็นเวลา 5 เดือน เนื่องจากการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเหมืองที่เฟื่องฟูได้ช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ดัชนีชี้วัดสถานะการเงินภาคครัวเรือนร่วงลง 10.2% ซึ่งเป็นการดิ่งลงหนักสุดเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจทั้ง 5 รายการ
นักวิเคราะห์จากเวสต์แพคกล่าวว่า ภาวะเฟื่องฟูในภาคอุตสาหกรรมเหมืองจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าจะส่งผลดีต่อสถานะการเงินภาคครัวเรือนเสมอไป โดยบรรยากาศทั่วไปของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่กำลังย่างเข้าสู่เทศกาลจับจ่ายซื้อสินค้าสำหรับช่วงวันหยุดนั้นไม่ได้กระเตื้องขึ้นเลย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมไปจนถึงไตรมาส 2 ของปีหน้า
โดยธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยแถลงการณ์นโยบายการเงินรายไตรมาสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียจะขยายตัวได้ที่ระดับ 3.75% ในปี 2554 และจะไต่ระดับขึ้นแตะที่ 4% ในสิ้นปี 2555 ขณะที่ราคาผู้บริโภคจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.75% ในเดือนมิ.ย.2555 ขณะที่ธนาคารคาดการณ์ในก่อนหน้านี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 3.25% ส่วนอัตราว่างงานของออสเตรเลียในเดือนก.ย.อยู่ที่ระดับ 5.1% ซึ่งอยู่ต่ำกว่าอัตราว่างงานในสหรัฐประมาณครึ่งหนึ่ง
ทั้งนี้ ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้มาจากการสอบถามความเห็นของผู้บริโภคชาวออสเตรเลียจำนวน 1,200 คนในระหว่างวันที่ 1-7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา