นายฮัตตา ราจาซา รมว.ฝ่ายกิจการความร่วมมือทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย คาดหวังว่า การเดินทางเยือนอินโดนีเซียของประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะช่วยกระตุ้นสหรัฐให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำหรับงานหนักในอินโดนีเซีย โดยระบุว่า สหรัฐเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนอกกลุ่มพลังงานในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 871 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.ปีนี้
"เราต้องการการโอนถ่ายเทคโนโลยี และหวังว่าจะมีการลงทุนเข้ามาในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน นอกจากนี้ เราคาดหวังว่าสหรัฐจะเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมก่อสร้างทางรถไฟ ซึ่งอาจจะปูทางให้บริษัทสหรัฐ เช่น เจนเนอรัล อิเล็กทริก หรือแคททาร์พิลลาร์ เข้ามาเปิดโรงงานในอินโดนีเซีย" นายราจาซากล่าวกับหนังสือพิมพ์ JakartaGlobe ของอินโดนีเซีย
นายราจาซากล่าวว่า สหรัฐเข้ามาลงทุนในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรมนอกกลุ่มพลังงานในปี 2551 พุ่งขึ้นแตะระดับ 157 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่จะทะยานขึ้นแตะ 171 ล้านดอลลาร์ในปี 2552 และพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2553 ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มในช่วงที่เศรษฐกิจอินโดนีเซียขยายตัวแข็งแกร่ง
ด้านนายเอ็มเอส ฮิดายะต์ รมว.การค้าอินโดนีเซียคาดการณ์ว่า เม็ดเงินที่สหรัฐเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนอกกลุ่มพลังงานในอินโดนีเซียจะพุ่งขึ้นแตะ 1 พันล้านดอลลาร์ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และรัฐบาลจะสนับสนุนบริษัทสหรัฐให้เข้ามาลงทุนเพิ่มในอุตสาหกรรมเครื่องจักรสำหรับงานหนัก สำนักข่าวซินหัวรายงาน