นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นทั่วประเทศได้มีการประเมินความเสียหายของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติในภาคกลางและภาคใต้ พบว่าเกิดความเสียหายภาคละประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในปี 43 ภาคใต้ประสบเหตุอุทกภัยเกิดความเสียหายราว 2 หมื่นล้านบาท
ดังนั้นภาคเอกชนจึงต้องการให้รัฐบาลปล่อยสินเชื่อปลอดดอกเบี้ยวงเงิน 5,000 -10,000 ล้านบาท เป็นเวลา 1 ปี และสามารถนำค่าซ่อมแซมต่างๆ มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 2 เท่า ยกเว้นการจ่ายภาษีบำรุงท้องถิ่น ยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตโรงงาน ขยายระยะเวลาชำระหนี้ 1 ปี และยกเว้นการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ทั้งในส่วนของนายจ้างและลูกจ้าง และยกเว้นการจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว
นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่แล้ว เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ดยจะลดราคาให้ 20-50% หากเป็นหน่วยงานราชการ แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลหรือโรงเรียนจะบริจาคให้ฟรี ส่วนการทำประกันภัย จะเร่งหาแนวทางเพื่อช่วยให้การเรียกค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยจ่ายให้ได้อย่างรวดเร็ว และจะทำงานประสานกับภาครัฐ รวมทั้งคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ด้วย ผ่านกกร.แต่ละจังหวัดจะช่วยสำรวจและประเมินความเสียหายด้วย
นอกจากนี้ ยังประสานงานกับกรมอาชีวะศึกษาเข้ามาช่วยเหลือประชาชน เช่น การสร้างสุขาลอยน้ำ น้ำดื่ม และเรือท้องแบน รวมทั้งให้ประชาชนมาพักในสถานศึกษาเป็นการชั่วคราวมาแล้ว
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะลดค่าอะไหล่รถยนต์ 30% ลดค่าแรง 20-50% และให้ตัวแทนจำหน่ายของศูนย์ซ่อมแต่ละค่ายรถยนต์ ส่งช่างเทคนิคไปช่วยซ่อมแซมเครื่องจักรกล ส่วนรถจักรยานยนต์จะลดค่าอะไหล่ 50% และฟรีค่าแรง นอกจากนี้จะประสานงานกับประกันภัยรถยนต์ให้มีการจัดให้รถยนต์ใหม่แก่ผู้ทำประกันภัยในบางกรณีด้วย
ส่วนกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์นั้น ผู้เดือดร้อนสามารถติดต่อผู้แทนจำหน่ายสินค้าแต่ละยี่ห้อเพื่อขอความช่วยเหลือได้ ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กจะช่วยลดราคาเหล็กเส้นและเหล็กรูปพรรณ 5-15% โดยผู้ที่ต้องการเหล็กรูปพรรณ และเหล็กเส้นราคาพิเศษ สามารถติดต่อผ่านส.อ.ท.
กลุ่มเครื่องปรับอากาศ จะซ่อมแซมเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในโรงพยาบาลฟรี สำหรับกลุ่มเครื่องจักรกล และโลหะการ ให้ผู้ที่เดือดร้อนแจ้งอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อส่งวิศวกรเข้าไปประเมินความเสียหาย เพื่อให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ประธาน ส.อ.ท.ยังกล่าวถึงกรณีที่เงินบาททำนิวไฮอีกครั้งในรอบ 13 ปี โดยแข็งค่าไปอยู่ที่ระดับ 29.50 บาท/ดอลลาร์นั้น นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นผลมาจากสหรัฐฯ ออกมาตรการ QE รอบ 2 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 600,000 ล้านดอลลาร์ฯ ส่งผลให้เงินไหลเข้ามาสู่ภูมิภาคเอเชียมากขึ้นโดยเฉพาะตลาดพันธบัตร
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาภาคเอกชนได้เสนอมาตรการที่ภาครัฐควรพิจารณาให้ความช่วยเหลือไปแล้ว แต่ต้องขึ้นกับรัฐบาลว่าจะพิจารณานำมาใช้หรือไม่ เพราะเงินทุนที่ไหลเข้าออกอย่างรวดเร็วจะส่งผลให้ค่าเงินบาทผันผวนมากจนกระทบธุรกิจเอกชนไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ประกอบกับขณะนี้เงินบาทแข็งค่าสูงสุดในภูมิภาค จึงต้องการให้รัฐออกมาตราดูแลให้เข้มข้นกว่าที่เป็นอยู่ เช่น เก็บภาษีเงินทุนนำเข้าระยะสั้น พร้อมกันนี้ยังห่วงว่า ในระยะกลางเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้นจะทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนหันไปซื้อวัตถุดิบในต่างประเทศมากขึ้นเป็นการทำลายโครงสร้างอุตสาหกรรมในประเทศเป็นสิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐเร่งดูแล