นายเฉลิมชัย มีคุณเอี่ยม ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 53 นี้ กทท. มีรายได้จากการดำเนินงาน 10,550 ล้านบาท ซึ่งถือว่าแตะระดับหมื่นล้านบาทเป็นครั้งแรก โดยมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน 7,637 ล้านบาท กำไรสุทธิทางบัญชี 2,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 571 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24% เป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้า การนำเข้า-ส่งออกของประเทศสูงขึ้นมาก ส่งผลให้ปริมาณเรือผ่านท่าเรือกรุงเทพเพิ่มขึ้น 5.5% และตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพเพิ่มขึ้น 15.6% ขณะที่ท่าเรือแหลมฉบังมีปริมาณเรือผ่านท่าเพิ่มขึ้น 18.8% และตู้สินค้าผ่านท่าเรือแหลมฉบังเพิ่มขึ้น 9.7%
กทท.ประเมินว่าในปีงบประมาณ 54 จะมีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่าเรือของ กทท.รวมทั้งสิ้น 6.755 ล้านทีอียู แบ่งเป็นตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ 1.34 ล้านทีอียู ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล และท่าเรือแหลมฉบัง 5.415 ล้านทีอียู
ส่วนผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 54 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 11,127 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายประมาณ 7,804 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิประมาณ 3,323 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10%
ทั้งนี้ กทท.ต้องเตรียมรับสถานการณ์จากการเติบโตของ GDP ประมาณ 4.5% ตลอดจนการแข็งของเงินบาทที่มีผลต่อการส่งออกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5-6% เท่านั้น รวมทั้งราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าบริการของ กทท. เพิ่มขึ้นเช่นกัน
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า กทท.จะเร่งศึกษากิจกรรมและสร้างรายได้จากกิจกรรมการให้บริการใหม่ๆ รวมทั้งให้ความสำคัญกับธุรกิจใหม่ที่สร้างรายได้ การเร่งรัดโครงการพื้นฐานในการเพิ่มรายได้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งการใช้ประโยชน์สินทรัพย์ของ กทท.ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกันต้องมีการบริหารจัดการควบคุมการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ กทท. เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต