ค่ายรถชั้นนำของญี่ปุ่นคาดกำไรจากการดำเนินงานร่วงหลังเงินเยนแข็งค่า

บริษัทผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น 7 ราย ได้เปิดเผยคาดการณ์ผลประกอบการเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งบ่งชี้ว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานรวมของกลุ่มบริษัทในช่วงเดือนต.ค. - มี.ค. หรือครึ่งปีหลังของปีงบการเงิน 2553 อาจจะร่วงลงถึง 66.4% จากช่วงครึ่งปีแรก แตะระดับ 4.03 แสนล้านเยน เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่า และต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายได้จากยอดขายรวมของบริษัทเหล่านี้อาจร่วงลง 1.8% แตะ 22.35 ล้านล้านเยนในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากยอดขายรถภายในประเทศลดลงหลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกเลิกโครงการให้เงินอุดหนุนแก่ผู้ซื้อรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา แต่ปริมาณยอดขายรถทั่วโลกของบริษัทเหล่านี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2% แตะ 10.52 ล้านคัน

บริษัทผู้ผลิตรถ 5 รายจาก 7 รายของญี่ปุ่นคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง โดยนิสสัน มอเตอร์ คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะลดลง 55.2% จากช่วงครึ่งปีแรก แตะ 1.50 แสนล้านเยน ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะร่วงลง 74.3% แตะระดับ 1.02 แสนล้านเยน ขณะที่โตโยต้า มอเตอร์ คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะทรุดลง 82.4% แตะ 5.68 หมื่นล้านเยน ซูซูกิ มอเตอร์ คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะร่วงลง 54.7% แตะ 3.11 หมื่นล้านเยน และฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ คาดว่ากำไรจะร่วงลง 77.9% แตะ 1.26 หมื่นล้านเยน

อย่างไรก็ดี มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป คาดว่า จะสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้สูงขึ้นถึง 5.5 เท่า แตะ 3.81 หมื่นล้านเยน เนื่องจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ส่วนมาสด้า มอเตอร์ วางแผนที่จะเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานให้ได้ 5.3% เป็น 1.28 หมื่นล้านเยน ด้วยการมุ่งเน้นทรัพยากรทางธุรกิจไปที่รถรุ่นต่างๆ และภูมิภาคต่างๆ ที่มีความสามารถในการทำกำไรมากกว่า