ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร,เยน รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 11, 2010 07:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) โดยยูโรอ่อนตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงไอร์แลนด์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3776 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคาร (9 พ.ย.) ที่ 1.3777 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.81% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6115 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5985 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.62% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.280 เยน จากระดับของวันอังคาร 81.770 เยน และดีดตัวขึ้น 0.36% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9711 ฟรังค์ จากระดับ 0.9676 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0057 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0031 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทะยานขึ้น 0.85% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7838 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7772 ดอลลาร์สหรัฐ

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปยังคงเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งสกุลเงินยูโรให้อ่อนตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะความกังวลเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลไอร์แลนด์ที่อาจทำให้ไอร์แลนด์ต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรป

รายงานระบุว่า รัฐบาลไอร์แลนด์เตรียมขึ้นภาษีและอาจต้องลดจำนวนหน่วยงานของรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหายอดขาดดุลงบประมาณ นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าหลายประเทศในกลุ่มยูโรโซนมีแผนออกตราสารหนี้เพื่อระดมเงินทุน ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินยูโร และหันมาซื้อดอลลาร์สหรัฐที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ปลอดภัยมากกว่า

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ที่ลดลงสู่ระดับ 4.40 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่าจะอยู่ที่ 4.55 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยให้สหรัฐสามารถส่งออกสินค้าได้เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ร่วงลง 24,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 435,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 450,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังฟื้นตัว

นักลงทุนจับตาดูการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ รวมทั้งจับตาดูการประชุม G20 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโซล เกาหลีใต้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะมุ่งเน้นเรื่องการแก้ปัญหาภาวะไร้สมดุลในระบบเศรษฐกิจโลก เพื่อเป้าหมายที่จะสร้างความเชื่อมั่นว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะเป็นไปอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ คาดว่าที่ประชุม G20 จะหารือและเรื่องความกังวลเกี่ยวกับเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงและสภาพคล่องในระบบที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ