World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 11, 2010 08:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงยอดขาดดุลการค้าและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานที่ปรับตัวลดลงเกินคาด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุม G20 ซึ่งจัดขึ้นที่เกาหลีใต้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 10.29 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 11,357.04 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 5.31 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 1,218.71 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 15.80 จุด หรือ 0.62% แตะที่ 2,578.78 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐจะยังคงเพิ่มขึ้นแม้ในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างล่าช้าก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดขาดดุลการค้าและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานที่ปรับตัวลดลงเกินคาด

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.81 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.81 - 86.70 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่งเป็นเวลาหลายวัน นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรับที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 10.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,399.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,383.40 - 1,410.00 ดอลลาร์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) โดยยูโรอ่อนตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงไอร์แลนด์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3776 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคาร (9 พ.ย.) ที่ 1.3777 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.81% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6115 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5985 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.62% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.280 เยน จากระดับของวันอังคาร 81.770 เยน และดีดตัวขึ้น 0.36% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9711 ฟรังค์ จากระดับ 0.9676 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0057 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0031 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทะยานขึ้น 0.85% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7838 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7772 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป และจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่ามาตรการควบคุมเงินเฟ้อของจีนอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนด้วย

ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 58.25 จุด หรือ 1% ปิดที่ 5,816.94 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ