ที่ประชุม G-20 ได้เริ่มการประชุมสุดยอดระยะเวลา 2 วันที่เกาหลีใต้วันนี้ โดยพุ่งเป้าไปที่มาตรการในแก้ภาวะไร้สมดุลในระบบเศรษฐกิจโลก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างยั่งยืน และความเคลื่อนไหวของค่าเงินจะมีเสถียรภาพ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมกล่าวว่า ที่ประชุมคาดว่า จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแนวทางในแก้ปัญหาภาวะไร้สมดุล แต่คาดว่า จะไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับตัวเลขเป้าหมายในการควบคุมยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด และยอดขาดดุลของแต่ละประเทศ
จีน เยอรมนี ญี่ปุ่น และประเทศต่างๆซึ่งมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวนมหาศาลนั้นไม่ได้ให้ความสนใจหรือแสดงความลังเกี่ยวกับข้อเสนอของสหรัฐที่ต้องการให้มีการจำกัดยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดและยอดขาดดุลไว้ที่ 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศภายในปี 2558
การประชุมครั้งนี้จะได้มีการศึกษาหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้นในภาคการเงิน การพัฒนา การค้าโลก และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ประเทศสมาชิก G-20 บางประเทศคาดว่า จะถือโอกาสวิจารณ์สหรัฐที่ประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เกิดกระแสเงินทุนไหลบ่าเข้าไปยังเศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่ และอาจจะทำให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ภาวะฟองสบู่สินทรัพย์ ซึ่งถือเป็นการดำเนินการที่สวนทางกับบทบาทของนักลงทุนที่มีความรับผิดชอบในระบบเศรษฐกิจโลกของสหรัฐ
สหรัฐถูกกล่าวหาว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้ข้อตกลงในกลุ่มรมว.คลัง G-20 เรื่องการละเว้นการลดค่าเงิน เนื่องจากแผนการซื้อพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ภายใต้เป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐนั้น ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง