นายปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/53 บริษัทได้ร่วมกับเคาน์เตอร์เซอร์วิสเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลพร้อมใช้ “เคทีซี แคช รีโวล์ฟ" (KTC CASH Revolve) ภายในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven แบบอิเล็คทรอนิกส์ เป็นสถาบันการเงินรายแรกในเมืองไทย และด้วยความได้เปรียบของสาขาถึง 5,300 สาขาทั่วประเทศ และการเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง จะทำให้ผู้บริโภคที่ต้องการสินเชื่อ สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์การเงินของเคทีซีได้สะดวกรวดเร็วและไม่มีข้อจำกัดของเวลา
"การสมัครบัตรเครดิตและหรือสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี แคช รีโวล์ฟ" ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสใน 7-Eleven มีขั้นตอนที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก เพียงแจ้งข้อมูลเบื้องต้นได้แก่ ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ พร้อมรายได้ให้กับเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสใน 7-Eleven เพื่อป้อนข้อมูลเข้าระบบออนไลน์ 5,300 สาขาทั่วประเทศ จากนั้นทางเคทีซีจะติดต่อกลับไปยังลูกค้าหลังได้รับรายชื่อจากเคาน์เตอร์เซอร์วิสภายใน 3 วันทำการ เพื่อนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์พร้อมบริการรับ-ส่งใบสมัครและเอกสารประกอบ" นายปิยศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สมัครจะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป และมีรายได้ตั้งแต่ 10,000 บาท สำหรับสินเชื่อพร้อมใช้ และรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาท สำหรับการสมัครบัตรเครดิต โดยฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีตลอดชีพ และทุกการใช้จ่ายจะได้รับคะแนนสะสม KTC Forever Rewards เพื่อใช้จ่ายแทนเงินสด พร้อมรับส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ
และจากโครงการดังกล่าวเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถเพิ่มฐานสมาชิกใหม่ได้ประมาณ 280,000 บัญชี ปัจจุบันเคทีซีมีฐานสมาชิกรวมกว่า 2.2 ล้านบัญชี แบ่งเป็นบัตรเครดิต 1.7 ล้านบัตร และสินเชื่อบุคคล 5 แสนบัญชี
และนับจากนี้ถึงปี 54 บริษัทมีนโยบายในการเพิ่มฐานสมาชิก โดยเน้นกลุ่มลูกค้ารายได้ปานกลางระหว่าง 15,000-40,000 บาท ทั้งในกลุ่มของสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตที่มีการใช้สินเชื่อหมุนเวียนอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าสินเชื่อบุคคลจะเห็นชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากความต้องการเข้าถึงสินเชื่อบุคคลยังมีปริมาณสูง และด้วยความได้เปรียบของอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อนอกระบบ และความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงิน น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้บริการเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับช่องทางหลักในการรับสมัครสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลของเคทีซีในปี 2554 จะแบ่งเป็น 4 ช่องทาง คือ การทำเอ้าท์ซอร์ส เซลส์เป็นหลักถึง 55% แบ่งเป็น 3 ช่องทางย่อยคือ “ไดเร็คท์ เซลส์" การขายผ่านตัวแทนทั่วประเทศกว่า 17,000 คน “บูธ เซลส์" หรือบูธการขายทั้งในห้างสรรพสินค้า ดิสเคาน์สโตร์ชั้นนำ อาคารสำนักงาน รวมถึงงานอีเว้นท์ต่างๆ และ “เทเลเซลส์" การขายผ่านเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์ และรับสมัครผ่านช่องทางธนาคาร 35% เน้นกลุ่มลูกค้าเงินฝากและกลุ่มลูกค้าบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงไทย 923 สาขาทั่วประเทศ และธนาคารออมสิน 930 สาขา เฉพาะบัตรเครดิตร่วมธนาคาร “เคทีซี-ธนาคารออมสิน"
นอกจากนี้จะรับสมัครผ่านช่องทางจุดบริการ “เคทีซี ทัช" 36 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล 33 แห่ง และ 3 แห่งในต่างจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา และนครปฐม และช่องทางเน็ตเวิร์ค ผ่านเว็บไซท์ของเคทีซี www.ktc.co.th และเว็บไซท์ www.silkspan.com ซึ่งเป็นตัวแทนการขายของเคทีซี โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการทำธุรกรรมต่างๆ บนอินเตอร์เน็ต และรับสมัครผ่านสถานที่ต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรคู่ค้าและออกบัตรเครดิตร่วมกัน เช่น สนามกอล์ฟ โรงพยาบาล ท่าอากาศยาน และโชว์รูมรถยนต์