ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดปล่อยเงินกู้ใหม่ในเดือนต.ค.ของจีนอยู่ที่ 5.87 แสนล้านหยวน ลดลงไปจากระดับเดือนก.ย.ที่ 5.95 แสนล้านหยวน ซึ่งเป็นสถิติที่ดีดตัวขึ้นจากสถิติเดือนต.ค.ปีที่แล้วที่ 2.53 แสนล้านหยวน
ยอดปล่อนกู้ครั้งใหม่นั้นสูงกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 5 แสนล้านหยวน หลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ปรับขึ้นเพดานการสำรองเงินฝากของธนาคาร 6 แห่ง รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของจีนมูลค่าประมาณ 6.89 ล้านล้านหยวน ลดลงไปจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วที่ 8.92 ล้านล้านหยวน
-- ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ของจีน ซึ่งรวมถึงเงินสดและเงินฝาก เพิ่มขึ้น 19.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 69.98 ล้านล้านหยวนภายในช่วงสิ้นเดือนต.ค. เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติช่วงสิ้นเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 19%
ส่วนปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M1 ซึ่งประกอบด้วยเงินสดและเงินฝากภาคเอกชน ปรับตัวขึ้น 22.1% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 25.33 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับตัวขึ้นจากสถิติช่วงสินเดือนก.ย.ที่ปรับตัวขึ้น 20.9%
-- หู เสี่ยวเหลียน รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของจีนในการขึ้นเพดานสำรองเงินฝากสำหรับสถาบันการเงินที่รับฝากเงินนั้นเป็นความพยายามครั้งล่าสุดของธนาคารในการบริหารสภาพคล่อง
หูกล่าวว่า ธนาคารกลางจะติดตามสถานการณ์ด้านราคาของจีนอย่างใกล้ชิด โดยจีนจะยังคงใช้เครื่องมือทางการเงินแบบดั้งเดิมอย่างยืดหยุ่นต่อไป ซึ่งรวมถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเพดานสำรองเงินฝาก เพื่อรักษาระดับสภาพคล่องในกลุ่มธนาคารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
-- ธนาคารไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ (CCB) เปิดเผยว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 ของธนาคาร ได้แก่ แบงค์ ออฟ อเมริกา ตกลงที่จะเสนอขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (rights issue) ในตลาดหุ้นฮ่องกงแก่บริษัท เทมาเสค โฮลดิ้งส์ โดยหุ้นใหม่นี้มีกำหนดช่วงระยะเวลาห้ามซื้อหุ้นขายเป็นเวลา 3 เดือน สำนักข่าวซินหัวรายงาน