Analysis: ยอดออมภาคครัวเรือนเดือนต.ค.ของจีนร่วง ขณะปริมาณการซื้อขายหุ้นคึกคัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 12, 2010 11:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ยอดการออมภาคครัวเรือนของจีนในเดือนต.ค.อ่อนตัวลงไปถึง 7.00 แสนล้านหยวน ซึ่งแตะระดับต่ำสุดระดับใหม่นับตั้งแต่ปี 2552

ยอดการออมภาคครัวเรือนที่ลดลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นจีนพุ่งสูงขึ้นมากนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนต.ค. ซึ่งอาจจะตีความได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวของเงินทุนจากบัญชีเงินฝากที่ธนาคาร ไปจนถึงการซื้อขายในตลาดหุ้น และบ่งชี้ถึงบรรยากาศที่ร้อนแรงของการลงทุนในตลาดหุ้น

ข้อมูลสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติยังได้เปิดเผยยอดเกินดุลของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M1 ที่ 69.98 ล้านล้านหยวนในช่วงสิ้นสุดเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 19.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือสูงกว่าสถิติเดือนก.ย.อยู่ 0.3% ขณะที่ยอดเกินดุลของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M1 อยู่ที่ 25.33 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 22.1% ต่อปี และขยายตัวสูงกว่าอัตราการขยายตัวเดือนก่อนหน้านี้ 1.2%

สภาพคล่องที่สูงขึ้นนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยายตัว 4.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่หน่วยงานด้านการเงินได้คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเพิ่มเติมก็ยิ่งกระตุ้นการคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อของจีน อีกทั้งยังทำให้นักลงทุนดึงเงินฝากจากธนาคารไปลงทุนในตลาดหุ้น

ตลาดหุ้นจีนนั้นอยู่ในช่วงขาขึ้นมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่เดือนต.ค. ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นดีดตัวขึ้นสูงสุดถึง 20% และ 20.8% ตามลำดับ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 8 ต.ค. - 11 พ.ย.

นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายรายวันในตลาดหุ้นในช่วงดังกล่าว ซึ่งอยู่ที่ระดับเฉลี่ยที่ประมาณ 3-4 แสนล้านหยวนต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นเกือบ 2 เท่าของตัวเลขที่ได้มีการจดทะเบียนไว้ก่อนสิ้นเดือนก.ย.

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นมากนี้อาจจะอธิบายได้ถึงอัตราการออมภาคครัวเรือนที่ลดลง โดยเฉพาะช่วงที่ช่องทางการลงทุนในจีนยังค่อนข้างจะจำกัดสำหรับครอบครัวร่ำรวยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น

เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว นักลงทุนวิตกกังวลกันมากเมื่อรัฐบาลจีนได้พูดถึงเรื่องกลไกการผลักดันให้เศรษฐกิจเคลื่อนไหวอย่างสอดคล้องกับตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อป้องกันวิกฤต อย่างไรก็ดี นักลงทุนในปัจจุบันไม่ได้เป็นห่วงเรื่องดังกล่าวมากนัก เนื่องจากเงินเฟ้อเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเมื่อดัชนี CPI แซงหน้าอัตราดอกเบี้ยของแบงค์ไปแล้ว

ตลาดหุ้นจีนกระดานเอนั้นร่วงลงอย่างมากในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขายเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ดัชนีส่วนใหญ่ร่วงลงไปกว่า 2% ยกเว้นดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้

แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า การปรับฐานในระยะสั้นที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อช่วงขาขึ้นในตลาดหุ้นจีน ซึ่งปริมาณการซื้อขายอาจจะคงอยู่ที่ระดับปัจจุบัน จนกว่าจะมีสัญญาณที่ชัดเจนบ่งชี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ