นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ความเสียหายเบื้องต้นของเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2553 มีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น 54 จังหวัด จำนวนครัวเรือนที่ประสบภัย 535,495 ครัวเรือน มูลหนี้ 48,595 ล้านบาท การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย เป็นนาข้าว 6,728,390 ไร่ พืชอื่นๆ 1,795,640 ไร่ พื้นที่ประมง 28,008ไร่ และสัตว์จำนวน 1,381,947 ตัว
ทั้งนี้ได้มีเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. เสียชีวิต จำนวน 11 ราย ในพื้นที่ จังหวัดนครนายก 1 ราย นครราชสีมา 3 ราย สุพรรณบุรี 1 ราย นครสวรรค์ 1 ราย เพชรบูรณ์ 1 ราย ชัยภูมิ 2 ราย ตรัง 1 ราย และนครศรีธรรมราช 1ราย รวมต้นเงินกู้ 751,105 บาท ดอกเบี้ย 46,964.25 บาท
สำหรับภาคใต้ซึ่งเกิดเหตุการณ์อุทกภัยและวาตภัยอันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น สถานการณ์ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีจังหวัดที่ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 12 จังหวัด 130 อำเภอ 819 ตำบล 5,643 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 570,317 ครัวเรือน 1,833,277 คน ได้แก่ จังหวัดสงขลา สตูล ตรัง นราธิวาส ยะลา ปัตตานี พัทลุง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ชุมพร และระนอง ซึ่งยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา อำเภอควนเนียง สทิงพระ ระโนด สิงหนคร กระแสสินธุ์ และจังหวัดพัทลุง อำเภอป่าพะยอม ส่วนพื้นที่อื่นๆสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างฟื้นฟู เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม
ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหาหลังน้ำลด ธ.ก.ส. จะเข้าไปสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามความเดือดร้อน เช่น กรณีลูกค้าเสียชีวิตจากอุทกภัย ธ.ก.ส.จะจำหน่ายลูกหนี้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญโดย ธ.ก.ส. รับภาระเอง กรณีลูกค้าประสบภัยร้ายแรง จะพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2553—2555 พร้อมงดคิดดอกเบี้ยในช่วงที่พักชำระหนี้ โดย ธ.ก.ส. จะขอชดเชยดอกเบี้ยดังกล่าวจากรัฐบาลแทนเกษตรกร ในอัตรา MRR-1 ซึ่งขณะนี้เท่ากับ 5.75% ต่อปี
นอกจากนี้จะให้เงินกู้ใหม่เพื่อไปฟื้นฟูการผลิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตรายละไม่เกิน 100,000 บาท โดยลดอัตราดอกเบี้ยจากเงินกู้ปกติลงอีก 3%ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี โดย ธ.ก.ส.จะขอชดเชยดอกเบี้ยดังกล่าวจากรัฐบาล 3%ต่อปี พร้อมกับการลดหย่อนหลักประกันการกู้เงิน เช่น ใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นประกัน จะขยายวงเงินกู้ไม่เกินวงเงินจดทะเบียนจำนอง
กรณีใช้กลุ่มลูกค้ารับรองรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป จากเดิมกู้ได้ไม่เกิน 150,000 บาท เป็นไม่เกิน 200,000 บาท และมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมล่าสุดคือการให้สินเชื่อใหม่แก่เกษตรกรลูกค้าชั้นดีเพื่อซ่อมแซมบ้าน/ยุ้งฉาง เครื่องมือการเกษตร ปีที่1-3 ดอกเบี้ย MRR-2 คิดเป็น 4.75%ต่อปี โดยไม่คิดดอกเบี้ยใน 3 เดือนแรก ปีที่ 4-5 คิดดอกเบี้ย MRR-1 คิดเป็น 5.75%ต่อปี ปีที่ 6 ขึ้นไปคิดดอกเบี้ย MRR เท่ากับ 6.75%ต่อปี นอกจากนี้ยังให้สินเชื่อแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อซ่อมแซมปัจจัยพื้นฐานที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย เช่น ถนน ประปา อาคาร เป็นต้น โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ MLR-2.25 คิดเป็น 2.50%ต่อปี