ครม.ศก.เห็นชอบชดเชยชาวสวนยาง 17,007 บาท/ไร่ เท่ากันทั้งใน-นอกกสย.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 15, 2010 13:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติเกี่ยวกับการช่วยเหลือชาวสวนยางพาราที่ประสบความเสียหายจากเหตุอุทกภัยและวาตภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเห็นชอบให้ใช้หลักเกณฑ์การรับความช่วยเหลือเดียวกันทั้งชาวสวนยางที่เป็นสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิกของกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง(กสย.)

สำหรับหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการชดเชยนั้นคิดเป็นความช่วยเหลือ 17,007 บาท/ไร่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้จากการช่วยเหลือตามเกณฑ์ของ กสย. 11,000 บาท/ไร่ รวมกับความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในสัดส่วน 55% ของต้นทุน ซึ่งเท่ากับ 6,007 บาท/ไร่ จึงรวมแล้วเป็น 17,007 บาท/ไร่

อย่างไรก็ดี ได้มีเงื่อนไขสำหรับการให้ความช่วยเหลือชาวสวนยางที่ไม่ได้เป็นสมาชิก กสย.ว่าจะต้องยกเลิกการปลูกยางพาราในพื้นที่ที่ไม่สมควรปลูก เช่น ในป่า หรือในที่นา ซึ่งที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ ได้มอบหมายให้ กสย.ไปพิจารณาในรายละเอียดว่าจะให้ความช่วยเหลือในเรื่องการปลูกพืชอื่นทดแทนต่อไป

นายธราดล กล่าวด้วยว่า ครม.เศรษฐกิจ ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งดำเนินการสำรวจเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยและวาตภัย รวมทั้งเร่งให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ที่ ครม.ได้มีมติไว้

นอกจากนี้ ให้เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรผู้ปลูกข้าวตามโครงการประกันรายได้ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือและชดเชยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และกระจายความช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยในด้านต่างๆ เช่น กระทรวงการคลัง โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) จะงดการคิดดอกเบี้ยและขอชดเชยจากรัฐบาล, กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนที่ได้รบเงินกู้เงินทุนหมุนเวียนของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยการพักชำระหนี้ ขอตัดหนี้สูญกรณีเสียชีวิต และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 1% กรณีขอกู้เงินเพื่อฟื้นฟูกิจการ

นอกจากนี้ ครม.เศรษฐกิจ ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(คอช.) ในการให้ความช่วยเหลือชาวสวนยาง รวมทั้งอนุมัติขยายกรอบวงเงินงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน จำนวน 132.63 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคใต้

รวมทั้งเห็นชอบมาตรการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายที่กันไว้เหลื่อมปีตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และมีมติเห็นชอบการทบทวนและปรับแผนโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินตามแผนไทยเข้มแข็งปี 55 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อนำไปใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป

สำหรับการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบครัวละ 5,000 บาทนั้น คาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือได้ภายในสิ้นเดือนนี้ จากล่าสุดที่เบิกจ่ายไปให้แล้วราว 20,000 ครอบครัว ขณะที่มียอดการขึ้นทะเบียนล่าสุดราว 60,000 ครอบครัว ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะมีผู้มาขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมอีกรวมแล้วประมาณ 3-4 แสนครอบครัว

อย่างไรก็ดี ครม.เศรษฐกิจ ได้มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังคงมีพื้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรงและยังต้องเฝ้าระวังอุทกภัยในภาคใต้ เช่น จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช โดยสถานการณ์อุทกภัยโดยรวมคาดว่าจะคลี่คลายลงตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.เป็นต้นไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ