ค่าเงินยูโรยังคงร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่ารัฐบาลไอร์แลนด์อาจจะขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากสหภาพยุโรป เพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะและภาวะตึงตัวในภาคการเงินภายในประเทศ
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.79% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3583 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ (12 พ.ย.) ที่ 1.3691 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินปอนด์ร่วงลง 0.53% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6048 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6133 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.80% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.160 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 82.500 เยน และดีดตัวขึ้น 0.38% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9842 ฟรังค์ จากระดับ 0.9805 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9843 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ 0.9865 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.28% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7717 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7739 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินยูโรยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป รวมถึงไอร์แลนด์ หลังจากรัฐบาลไอร์แลนด์ยืนยันว่ามีความเป็นไปได้ที่ทางรัฐบาลจะต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากสหภาพยุโรป เพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะภายในประเทศ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ผู้นำยุโรปเตรียมประชุมร่วมกันที่เบลเยี่ยมในวันอังคารนี้ เพื่อหารือกันเรื่องการให้ความช่วยเหลือไอร์แลนด์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วิกฤตหนี้สาธารณะของไอร์แลนด์เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนก.ย. เมื่อรัฐบาลไอร์แลนด์ประกาศว่าอาจจะต้องอัดฉีดเงินจำนวน 3.43 หมื่นล้านยูโร (4.66 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าไปพยุงกิจการธนาคารแองโกล-ไอริชแบงค์ที่ประสบปัญหาด้านการเงิน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณของไอร์แลนด์ในปี 2553 พุ่งขึ้นเป็น 32% ของตัวเลขจีดีพี จากเดิมที่ประมาณการไว้ที่ 11%
นักวิเคราะห์คาดว่า ต้นทุนในการให้ความช่วยเหลือภาคธนาคารของไอร์แลนด์อาจพุ่งสูงถึง 5 หมื่นล้านยูโร (6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งจุดปะทุให้เกิดความวิตกกังวลว่าไอร์แลนด์อาจเผชิญปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจนำไปสู่วิกฤตหนี้สาธารณะรอบใหม่ในยุโรป และจะฉุดรั้งเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซน เช่นสเปนและโปรตุเกส หดตัวลงด้วย
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค., ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนก.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนต.ค.